วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

"นายกบุญเลิศ" ร่วมแถลงข่าว "เชียงใหม่ร่วมใจสู้ฝุ่น มุ่งสู่ดิน น้ำ ป่า อากาศ และเมืองยั่งยืน" ประกาศร่วมทุกภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือปัญหาฝุ่นควันเชียงใหม่  ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

"นายกบุญเลิศ" ร่วมแถลงข่าว "เชียงใหม่ร่วมใจสู้ฝุ่น มุ่งสู่ดิน น้ำ ป่า อากาศ และเมืองยั่งยืน" ประกาศร่วมทุกภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือปัญหาฝุ่นควันเชียงใหม่ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่










วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 09.30 น. นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าว "เชียงใหม่ร่วมใจสู้ฝุ่น มุ่งสู่ดิน น้ำ ป่า อากาศ และเมืองยั่งยืน" ในการขับเคลื่อนพื้นที่ปฏิบัติการชุมชนดิน น้ำ ป่า อากาศยั่งยืน เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบลในเชียงใหม่ เครือข่ายชาติพันธุ์เชียงใหม่ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการสรุปรายงานผลการประเมินการจัดทำแผนงานเชิงปฏิบัติการพื้นที่นำร่องในแต่ละชุมชน โดยมีผู้แทนสภาองค์กรชุมชน ตำบล จ.เชียงใหม่, ผู้แทนเครือข่ายชาติพันธ์ เชียงใหม่, ผู้เทนสภาลมหายใจภาคเมือง, นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานมูลนิธิสืบสานล้านนาฯ เข้าร่วม
















ซึ่งมีตัวแทนสภาลมหายใจเชียงใหม่





ประชาสังคมเชียงใหม่เพื่ออากาศสะอาด ยั่งยืนชุมชน ดิน น้ำ ป่า อากาศยังยืน ได้ยื่นหนังสือแก่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับทาง อบจ.เชียงใหม่ ได้มอบหน้ากากอนามัยให้แก่กลุ่มตัวแทนที่มาเข้าร่วมประชุมในเบื้องต้น




ทางสภาลมหายใจเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่รวมของประชาสังคม องค์กรหน่วยงานวิชาการ ภาคธุรกิจที่ใส่ใจและมุ่งมั่นมีส่วนร่วมจัดการปัญหาฝุ่นควันที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนทั้งคนในเชียงใหม่และผู้มาเยือน โดยได้มีการเตรียมการระยะสั้น ระยะยาว เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหา โดยเริ่มจากโครงการ "เขียวสู้ฝุ่น" ระดมพลังจัดการพื้นที่สีเขียวการเพิ่มปริมาณต้นไม้ในทุกพื้นที่ในเมืองในป่า ในดอย มีการจัดทำคู่มือพันธุ์ไม้สู้ฝุ่นสำหรับปลูกในบ้านในอาคารและพื้นที่ทั่วไป โครงการตั้งเป้าอย่างน้อยให้ได้ 1 ล้านต้น นอกจากนี้ยังได้มีการดำเนินการเตรียมตัวเผชิญฝุ่นควันในช่วงวิกฤติ โดยมีการจัดทคู่มือส่งเสริมสุขภาพป้องกันฝุ่นพิษแบบง่ายๆ สำหรับสื่อสารและจัดฝึกอบรมประชาชนในระดับตำบลร่วมกับกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น และการดำเนินการพื้นที่รูปธรรมจัดการลดฝุ่นควันในระยาว 30 ตำบลที่ร่วมดำเนินการโดย สภาองค์กรชุมชนตำบล และเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ นำร่องใน 25 อำเภอ คือ"โครงการ ชุมชน ดินน้ำป่าอากาศยั่งยืน" เป็นการดำเนินการจัดทำแผนบูรณาการในพื้นที่ร่มกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยมุ่งเน้น ให้เกิดการแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก การปรับเปลี่ยนวิถีการผลิต เพื่อลดฝุ่นควัน โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของชุมชนในทุกมิติการจัดการที่ดินทำกิน สิทธิในที่ทำกิน, การปลูกไม้เศรษฐกิจในพื้นที่ทำกินในชุมชนในเขตป่า, การจัดระบบสวัสดิการชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิตประชากรทุกกลุ่มวัย, การสร้างความตระหนักปัญหาฝุ่นควันและการเตรียมตัว เตรียมบ้าน ให้พร้อมเผชิญภาวะฝุ่นควัน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ เป็นต้น

ทั้งนี้ โดยขอการสนับสนุนจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนบูรณการของชุมชนในการแก้ปัญหาฝุ่นควัน, สนับสนุนการดำเนินการปรับเปลี่ยนวิถีการผลิต การใช้นวัตกรรมการผลิต ลดฝุ่นควัน, สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำแนวกันไฟ การชิงเผา การดับไฟ, จัดทำระบบเตือนภัยมลพิษฝุ่นควันในระดับตำบลสร้างอาสาสมัครเตือนภัยฝุ่นควัน, การจัดทำข้อมูลปัญหามลพิษฝุ่นควันและการป้องกันตนเอง จัดทำเอกสารความรู้แผยแพร่ให้กับทุกชุมชนทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประสานการดำเนินการสื่อสารสาธารณะเพื่อสร้างความตระหนักร่วมของคนเชียงใหม่ ในเรื่องผลกระทบจากฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ จัดกิจกรรมเชื่อมประสานระหว่างคนบนคอยคนในป่ากับในเมือง จัดกิจกรรมลดฝุ่นควันในเมืองการหยุดใช้รถยนต์เพื่อลดมลพิษ Gar Free Dayกิจกรรมเทศกาล Count Dow ก่อนฤดูฝุ่นควัน ฯลฯ โดยทางผู้ดำเนินงานโครงการชุมชนดินน้ำป่าอากาศยังยืน พร้อมจะร่วมมือกับทางอบจ.เชียงใหม่ ในการแก้ปัญหาฝุ่นควันอย่างต่อเนื่องให้เกิดผลระยะยาว เพื่อนำพาเชียงใหมให้เป็นเมืองน่าอยู่ อากาศสะอาดยั่งยืนต่อไป










ทางด้านนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าได้ประเมินสภาวะหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะหนักกว่าปีก่อนเพราะได้มีสัญญาณส่งมาแล้วและในวันนี้ที่เรามาประชุม สภาลมหายใจเชียงใหม่ในวันนี้ จ.เชียงใหม่ก็ติดอันดับ 17 ของโลกแล้ว ในส่วนของสภาพอากาศซึ่งเกินร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ และตนเองขอชื่นชมพลเมืองของเชียงใหม่ 25 อำเภอ ที่ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนและร่วมมือร่วมใจที่จะต่อสู้กับยักษ์ตัวร้ายตัวนี้ ไม่ว่าเราจะชนะหรือว่าแพ้ก็ตาม ซึ่งทางอบจ.เชียงใหม่ พร้อมที่จะระดมกำลังและความสามารถเพื่อช่วยทุกท้องที่และร่วมกันต่อสู้กับปัญหาสภาวะหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ทางอบจ.เชียงใหม่มั่นใจว่าสามารถจะสามารถดำเนินการได้เกินครึ่งโดยจะใช้ศักยภาพในทุกด้านที่มีอยู่ เพื่อต่อสู้กับภัยพิบัติทางอากาศ โดยจะใช้งบกลางในการต่อสู้ ซึ่งงบประมาณของทางอบจ.เชียงใหม่ นั้นมีอยู่แล้วในเบื้องต้นและตอนนี้ทางอบจ.เชียงใหม่ ได้สั่งซื้อเครื่องวัดค่า PM 2.5 และเตรียมพร้อมจะนำไปติดตั้งในส่วนที่ล่อแหลมที่สุด และให้ประชาชนในพื้นที่เห็นชัดที่สุด ตัวอย่างเช่น รพ.สต. และโรงเรียนต่างๆ พร้อมเตรียมสั่งซื้อเครื่องเป่าลมเอนกประสงค์เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อไฟในพื้นที่ป่า นอกเหนือจากนั้นทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จะได้สร้างฝายชะลอความชุ่มชื้นในป่า ซึ่งในเบื้องต้นทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการสร้างไปแล้ว 2 พันกว่าฝาย โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะสร้างให้ได้ 10,000 ฝายในเวลา 1 ปี พร้อมสร้างและพัฒนาแหล่งน้ำใน 204 ตำบล ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจว่าในพื้นที่ในแต่ละตำบลที่มีแหล่งน้ำแล้วหรือไม่ หากมีแล้วเราจะเสริมสร้างแหล่งน้ำให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยภายในระยะเวลา 4 ปี แหล่งน้ำใน 204 ตำบลทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่จะลงพื้นที่ทำอย่างแน่นอน และสิ่งไหนที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เล็งเห็นว่าทำและเกิดประโยชน์ให้แก่จังหวัดเชียงใหม่ เราจะพร้อมทำงานและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่แน่นอน.


ทางด้านนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าได้ประเมินสภาวะหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะหนักกว่าปีก่อนเพราะได้มีสัญญาณส่งมาแล้วและในวันนี้ที่เรามาประชุม สภาลมหายใจเชียงใหม่ในวันนี้ จ.เชียงใหม่ก็ติดอันดับ 17 ของโลกแล้ว ในส่วนของสภาพอากาศซึ่งเกินร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ และตนเองขอชื่นชมพลเมืองของเชียงใหม่ 25 อำเภอ ที่ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนและร่วมมือร่วมใจที่จะต่อสู้กับยักษ์ตัวร้ายตัวนี้ ไม่ว่าเราจะชนะหรือว่าแพ้ก็ตาม ซึ่งทางอบจ.เชียงใหม่ พร้อมที่จะระดมกำลังและความสามารถเพื่อช่วยทุกท้องที่และร่วมกันต่อสู้กับปัญหาสภาวะหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ทางอบจ.เชียงใหม่มั่นใจว่าสามารถจะสามารถดำเนินการได้เกินครึ่งโดยจะใช้ศักยภาพในทุกด้านที่มีอยู่ เพื่อต่อสู้กับภัยพิบัติทางอากาศ โดยจะใช้งบกลางในการต่อสู้ ซึ่งงบประมาณของทางอบจ.เชียงใหม่ นั้นมีอยู่แล้วในเบื้องต้นและตอนนี้ทางอบจ.เชียงใหม่ ได้สั่งซื้อเครื่องวัดค่า PM 2.5 และเตรียมพร้อมจะนำไปติดตั้งในส่วนที่ล่อแหลมที่สุด และให้ประชาชนในพื้นที่เห็นชัดที่สุด ตัวอย่างเช่น รพ.สต. และโรงเรียนต่างๆ พร้อมเตรียมสั่งซื้อเครื่องเป่าลมเอนกประสงค์เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อไฟในพื้นที่ป่า นอกเหนือจากนั้นทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จะได้สร้างฝายชะลอความชุ่มชื้นในป่า ซึ่งในเบื้องต้นทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการสร้างไปแล้ว 2 พันกว่าฝาย โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะสร้างให้ได้ 10,000 ฝายในเวลา 1 ปี พร้อมสร้างและพัฒนาแหล่งน้ำใน 204 ตำบล ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจว่าในพื้นที่ในแต่ละตำบลที่มีแหล่งน้ำแล้วหรือไม่ หากมีแล้วเราจะเสริมสร้างแหล่งน้ำให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยภายในระยะเวลา 4 ปี แหล่งน้ำใน 204 ตำบลทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่จะลงพื้นที่ทำอย่างแน่นอน และสิ่งไหนที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เล็งเห็นว่าทำและเกิดประโยชน์ให้แก่จังหวัดเชียงใหม่ เราจะพร้อมทำงานและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่แน่นอน.

https://youtu.be/RHkP-Nd_kus

ทรงวุฒิ ทับทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น