คณะอนุกรรมาธิการสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและสื่อสาธารณะ จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ ห้อง 2702 ชั้น 27 อาคารสุขประพฤติ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา





โดยคณะอนุกรรมาธิการสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและสื่อสาธารณะ จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .... โดยมีนายนิพนธ์ นาคสมภพ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิด และมีผู้แทนจากกลุ่มผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วม
นายนิพนธ์ นาคสมภพ กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้ได้เชิญกลุ่มนักวิชาชีพสื่อมวลชน และกลุ่มวิชาการด้านสื่อสารมวลชนมาให้ความคิดเห็น ซึ่งการจัดสัมมานาสืบเนื่องจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาด้านการสื่อสารมวลชนที่มีผลกระทบต่อประเทศในทุกมิติ จึงได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชนขึ้น โดยได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ มีจริยธรรม มีสิทธิเสรีภาพบนความรับผิดชอบต่อสังคมภายใต้การกำกับดูแลกันเอง โดยมีสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติเป็นองค์กรกลางในการกำกับดูแลกันเอง อีกทั้งเพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองจากการประกอบอาชีพสื่อมวลชนและสามารถบริโภคสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ



สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะประเด็นร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ควรมีผลบังคับใช้หรือไม่ และการนิยามคำว่า "วิชาชีพสื่อมวลชน" และ"จริยธรรมสื่อมวลชน" มีความเหมาะสมกับในยุคปัจจุบันอย่างไร รวมไปถึงเมื่อเห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะต้องมีกลไกอะไรบ้างที่จะมาใช้ในการกำกับดูแลวิชาชีพสื่อมวลชนและความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้หลังการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการฯ จะรวบรวมข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะทั้งหมดมาประกอบการพิจารณาศึกษาแนวทางการส่งเสริมและผลักดันให้มีการพัฒนากฎหมาย นโยบาย และมาตรการเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ การสื่อสารของรัฐ สื่อสารมวลชน และสื่อสาธารณะให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม





ภาพ/ข่าว กฤษรชฏะชญตว์ กฤษพิพัฒนโภคิน ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน