กองทัพภาคที่ 3 ประชุมทางไกลกับ 9 จังหวัดภาคเหนือ ก่อนเตรียมการจัดทำแผนบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันภาคเหนือให้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
ว่าที่ ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงราย เป็นประธานประชุมเตรียมการจัดทำแผนบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม 2563 ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถนนแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อหารือรับฟังการเตรียมการจัดทำแผนบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ พร้อมกับการประชุมทางไกลร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันระดับภาค ภาคเหนือผ่านระบบ VTC โดยมี พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค เป็นประธานการประชุม และมอบต่อให้ พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ทำหน้าที่เป็นประธานดำเนินการประชุมแทน
ในการประชุมทางไกลครั้งนี้ มีการนำเสนอสถานการณ์จุดความร้อนและผลการปฏิบัติภารกิจของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ GISDA ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนควบคุมไฟป่า-กรมป่าไม้ จังหวัดลำพูน จังหวัดแพร่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก จังหวัดลำปาง จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา กองกำลังนเรศวร กองกำลังผาเมือง ก่อนจะเปิดเวทีหารือ ก่อนปิดประชุมตามลำดับ
สำหรับจังหวัดเชียงราย ในปี 2562-2563 เกิดจุดความร้อนในระบบ MODIS ลดลง 115 จุด ในระบบ VIIRS เพิ่มขึ้น1,117 จุด มีสาเหตุมาจากสภาพความแห้งแล้งของพื้นที่ มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐาน 75 วัน ในส่วนการปฏิบัติด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับจังหวัด และอำเภอทั้ง 18 อำเภอ และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่นระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 143 แห่ง มีศูนย์รับแจ้งเหตุไฟป่าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย มีศูนย์ติดตามเฝ้าระวังที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย จัดตั้งคณะทำงานวิเคราะห์ข้อมูลประเมินสถานการณ์ จัดทำแผนแผนเผชิญเหตุแผนตอบโต้สถานการณ์ 19 แผน จัดทำประกาศจังหวัดเพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์ เรื่องการรณรงค์ เรื่องขอความร่วมมืองดเผา 60 วันปลอดการเผา เรื่องแจ้งเตือนสถานการณ์ เรื่องขอความร่วมมือในการเข้าออกพื้นที่ป่า เรื่องแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและควบคุมการเกิดไฟป่า และเรื่องขอความร่วมมืองดเผาระหว่างวันที่ 22 เมษายน-15 พฤษภาคม 2563 นอกจากนี้ ยังจัดการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผลิตสื่อรายงานสถานการณ์ผ่านสื่อทุกช่องทาง 6,724 ครั้ง มีการบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน จิตอาสา และประชาสังคมจัดชุมลาดตระเวนร่วม และชุดปฏิบัติการดับไฟป่า 1,170 คน ใช้อากาศยานไร้คนขับติดตามสถานการณ์ลาดตระเวนลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แจ้งเตือนป้องปรามผู้กระทำความผิด และชี้พิกัดตำแหน่งเกิดไฟได้ทันที ยังมีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนและผู้กระทำความผิด 115 ราย เปรียบเทียบปรับ 20,800 บาท ในคดี พ.ร.บ.ป่าไม้ 11 คดี พ.ร.บ.จราจร 104 ราย
นอกจากนี้ มีการจัดทำสถานที่พักชั่วคราว Safety Zone อย่างน้อยตำบลละ 1 แห่งในโรงพยาบาลศูนย์จังหวัด โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และห้างสรรพสินค้า เริ่มจัดตั้งเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 มีจำนวน 234 แห่ง รองรับประชาชน 10,800 คน ค้นหาจุดบริการที่แอพพลิเคชั่น ยักษ์ขาว แจกจ่ายหน้ากากอนามัยจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ 13,500 ชิ้น และดำเนินงานกองทุนสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงราย เป็นเงิน 109,000 บาท ในการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย 39,000 บาท ผู้แจ้งเบาะแส 4 ราย 20,000 บาท ผู้เสียชีวิตในขณะปฏิบัคิหน้าที่ 1 ราย 50,000 บาท
ทั้งนี้ มีการตรวจวัดควันไอเสีย 77 คัน คำสั่งห้ามใช้รถ 3 คัน เพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศให้มีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ 2,513 ครั้ง จัดการเขื้อเพลิงในพื้นที่ป่า 1,753 ไร่ จัดการเขื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร 287,580 ไร่ ไถกลบตอซังใช้สารย่อยสลาย 444 จุด 5,607 ไร่ แปรรูปวัสดุการเกษตร 13 หมู่บ้าน 97 ชุมชน จัดทำประกาศหมู่บ้านชุมชนห้ามเผา 206 แห่ง จัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีพฤติกรรมเผาหาของป่า 143 หมู่บ้าน 2,050 คน จัดทำแนวกันไฟ 587.15 กิโลเมตร ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรม 38 โรงงาน
ในส่วนของการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ มีการขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน 1 ฉบับ พบปะขอความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน 3 ครั้ง จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างตระหนักและระดมทุนใช้ในการบริหารจัดการ 5 ครั้ง อีกทั้ง พัฒนาชุดความรู้เกี่ยวกับ Safety Zone และการดูแลสุขภาพ เน้นกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ เด็กปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา และ อสม.
อนึ่ง ความสำเร็จของการบริหารจัดการสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันของจังหวัดเชียงรายมีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก มีจุด Hot Spot ลดลง มีแนวทางในการสร้างเสริมศักยภาพของท้องถิ่นและชุมชนในการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืน พัฒนาความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมเพื่อเข้าสู่ชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Green City อย่างเป็นรูปธรรม และผลักดันความร่วมมือในการแก้ไขหมอกควันข้ามแดนกับประเทศภาคีที่ได้รับผลกระทบที่จะต้องตอบสนองการแก้ปัญหาและคลี่คลายสถานการณ์การเผาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมกันนี้ ได้มีข้อเสนอแนะ ควรให้มีการจัดสรรงบประมาณสร้างแรงจูงใจและสวัสดิการแก่ผู้ปฏิบัติงาน ควรกำหนดห้วงห้ามเผาให้เป็นช่วงเวลาเดียวกันทั้ง 9 จังหวัด และส่งเสริมงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นให้เป็นฐานข้อมูลในการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและการจัดสรรทรัพยากรป่าไม้ที่สอดคล้องกับความต้องการใช้และบริบทของชุมชนที่ยั่งยืน🍇🍍🍓🌮🍵🍭🏺🎄🎊🎯🎭🔮🌏🏯⛽🚀🛰
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
08/05/63
วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
กองทัพภาคที่ 3 ประชุมทางไกลกับ 9 จังหวัดภาคเหนือ ก่อนเตรียมการจัดทำแผนบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันภาคเหนือให้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น