วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563

นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าเมืองร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการแนะนำชี้แจงนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2563

ร้อยเอ็ด..ข่าวเด่น

นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าเมืองร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการแนะนำชี้แจงนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2563







วันนี้ (30 มิถุนายน 2563) เวลา 09.30 น.นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดมอบหมายให้นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าเมืองร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการแนะนำชี้แจงนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2563โดยมี นายศิริ ธนะมูล ผู้อำนวยการสตรีศึกษา การแนะนำชี้แจงและให้โอวาท แก่นักเรียน พร้อมรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด, นายประภาส ศรีทอง, ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ฤทธิ์ เถาว์จันทร์, นายเฉลิมชัย มาตรหลุบเลา คณะฝ่ายบริหารด้านบุคคล, วิชาการ..ที่เคารพในนามของคณะกรรมการจัดงานแนะนำชี้แจงนักเรียนใหม่ ปีการศึกษา 2563
ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในวันนี้



การแนะนำชี้แจงนักเรียนใหม่ มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1. เพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักเข้าใจในระเบียบข้อบังคับ กติกา และวัฒนธรรมของโรงเรียน
2. เพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของนักเรียน การเฝ้าระวังตนเอง เพื่อการเรียนรู้
เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3. เพื่อให้นักเรียนได้สำรวจตัวเอง การเตรียมความพร้อมทุกๆด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจ และ
เตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องมือในการเรียน
4. เพื่อให้นักเรียนได้ปรุงแต่งบูรณะการตนเองในการใช้ชีวิตอยู่ในรั้วเลือดน้ำเงินเหลือง
นักเรียนสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตของวันข้างหน้าได้อย่างมีความสุขและภาคภูมิใจการแนะนำชี้แจงหรือการปฐมนิเทศครั้งนี้ด้รับความร่วมมือจากครูที่ปรึกษานักเรียนชั้นมัยมศึกษาปีที่ 4 ทุกคน
นักเรียนที่เข้ารับการชี้แจงแนะนำนักเรียนในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เฉพาะห้อง จำนวน 355 คน
ในโอกาสนี้ท่านผู้อำนวยการกล่าวเปิดการแนะนำชี้แจงและให้โอวาท



แก่นักเรียนในลำดับต่อไป..
ณ หอประชุมโรงเรียนสตรีร้อยเอ็ดจากสถานการณ์ COVID-19 ภายในประเทศท่ีเริ่มคลี่คลาย ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้มีมติผ่อนปรนให้วัดทุกแห่งสามารถ กลับมาทำกิจกรรมทางศาสนาทุกอย่างได้ตามปกติบนวิถีใหม่ (New Normal) คือ การดำเนินการ มาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเคร่งครัดการเปิดโรงเรียนจึงมีความเสี่ยงในแง่จำนวนเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ เป็นการรวมเด็กหลายครอบครัวมาอยู่ในโรงเรียน
จังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอให้สถานศึกษาทุกแห่งดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. มีมาตรการคัดกรองวัดไข้และอาการเสี่ยงก่อนเข้าสถานศึกษา โดยออกแบบจุดคัดกรองให้เหมาะสม เพราะโรงเรียนมีขนาดไม่เท่ากัน และขอความร่วมมือกับผู้ปกครองถ้านักเรียนมีไข้ ขอให้หยุดเรียนอยู่บ้านสังเกตอาการ หรือพาไปพบแพทย์รวมทั้งแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ
2. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ในทุกช่วงชั้นขณะอยู่ในโรงเรียน อยู่ในห้องเรียน รวมทั้งบนรถโดยสาร ตลอดจนในที่ชุมนุมชน ให้คุณครูกำชับนักเรียนให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

3. จุดทำความสะอาดล้างมือ ตั้งแต่ทางเข้าโรงเรียน ต้องทำเส้นทางให้ไปจุดล้างมือก่อนไปเข้าชั้นเรียน
4. ออกแบบระยะห่างในชั้นเรียน แต่เด็กอาจเว้นระยะห่างได้ยาก ก็อยากให้จัดกลุ่มเด็กเป็นกลุ่มย่อยๆ และให้เป็นกลุ่มเดียวกันไปตลอดทั้งวัน เมื่อพบความผิดปกติก็จะติดตามได้รวดเร็ว
5. การทำความสะอาด เน้นพื้นผิวสัมผัสต่างๆ ตั้งแต่ก่อนเปิดเทอมทุกวัน เช่น สนามเด็กเล่นก็อาจหมุนเวียนเด็กกลุ่มเล็กๆ ออกมาเล่น แล้วทำความสะอาดระหว่างกลุ่มผลัดเปลี่ยนกิจกรรม และล้างมือก่อนเล่นหลังเล่น ก็จะลดการแพร่ระบาดโรค
6. เรื่องความแออัด หลายกิจกรรมที่คงจัดไม่ได้ เช่น กีฬาสี ที่เป็นความเสี่ยงในการรวมกลุ่มใกล้ชิด อาจต้องงดไปก่อน

"ขอเชิญชวนชาวร้อยเอ็ดร่วมใจ" ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19“อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ ถือหลักรักสะอาด ปราศจากแออัด จัดไปไทยชนะ”





.................
ึคณิต ไชยจันทร์ บพิตร จำปา กูลศักดิ์ แสงศักดิ์:ภาพ/ข่าว
ศรีไพร ทูลธรรม อัพเดตสถานการณ์ข่าวในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด/รายงาน

กาฬสินธุ์พิพิธภัณฑ์สิรินธรพร้อมเปิดยึดมาตรการระยะห่าง1รอยตีนไดโนเสาร์

กาฬสินธุ์พิพิธภัณฑ์สิรินธรพร้อมเปิดยึดมาตรการระยะห่าง1รอยตีนไดโนเสาร์
พิพิธภัณฑ์สิรินธร แหล่งค้นพบซากฟอสซิลสมบูรณ์ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดให้บริการแล้วในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 หลังหยุดทำการ 3 เดือนหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทดสอบระบบการเข้าชมของพิพิธภัณฑ์ที่ผ่านการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข และตามมาตรการระยะห่าง 1 รอยตีนไดโนเสาร์



เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ ร่วมทดสอบระบบการเข้าชมของพิพิธภัณฑ์สิรินธร ที่ได้ผ่านการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข (SHA) พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป โดยมีนางสาวอรอุมา สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สิรินธร และเจ้าหน้าที่ต้อนรับและนำสำรวจทดสอบความพร้อมให้บริการ
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นมา พิพิธภัณฑ์สิรินธรได้ปิดให้บริการเข้าชม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว ตามนโยบายของคณะกรรมการโรคติดต่อ แต่ก็ได้ให้บริการในรูปแบบ Virtual Museum และการติดต่อสื่อสารผ่านทางช่องทางออนไลน์ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ได้ศึกษาโลกบรรพชีวินยุค 100 ล้านปี 150 ล้านปี หรือ 250 ล้านปีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ยังคงเตรียมการปรับปรุงซ่อมแซมและเตรียมแผนพัฒนาการให้บริการเพื่อให้พร้อมกับการกลับมาให้บริการอีกครั้งเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย



นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์ของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งเป็นอยู่ในระยะที่ 4 จึงจะได้เปิดให้บริการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ผ่านมาจะพบว่ามีนักท่องเที่ยวมาชมพิพิธภัณฑ์วันละ 1,000-2,000 คน แต่เนื่องจากปิดการบริการตลอด 3 เดือนดังกล่าว ที่อาจจะเกิดภาวการณ์อัดอั้น เมื่อจะเปิดให้บริการอีกครั้ง จึงคาดว่าน่าจะมีนักเที่ยวเที่ยวมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหัวใจสำคัญที่สุดคือในการเปิดให้บริการของพิพิธภัณฑ์ในระยะผ่อนปรนระยะ 4 ต้องรักษามาตรการป้องกันและปลอดภัยจากโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น ทั้งในส่วนของการคัดกรองและรักษาระห่างตามสโลแกนมาตรการระยะห่าง 1 รอยตีนไดโนเสาร์
ด้านนายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเดินทางเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งเป็นแหล่งค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดกินพืช ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สหัสขันธ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับนักท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง
นายตระกูล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อ.สหัสขันธ์ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เชิงธรรมชาติและศาสนาวัฒนธรรมหลายแห่ง ที่เส้นทางเชื่อมโยงถึงกัน และนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลายในพื้นที่และใกล้เคียงหลายจุด เช่น สะพานเทพสุดา แหลมโนนวิเศษ วัดพุทธาวาสภูสิงห์ วัดภูค่าว และสวนอินทผาลัมอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับความประทับใจ ที่ได้เดินทางมาเที่ยวชมโลกบรรพชีวิน และสัมผัสกับบรรยากาศการท่องเที่ยวครบวงจรในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์

ขณะที่นางสาวอรอุมา สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สิรินทร กล่าวว่า แม้พิพิธภัณฑ์จะปิดให้บริการชั่วคราว แต่ก็เป็นช่วงที่ได้มีการคิดระบบการพัฒนาการให้บริการความรู้ผ่านสื่อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้ใช้ Application พิพิธภัณฑ์สิรินธร 360 องศา การจัดทำรายการเพื่อส่งเสริมความรู้ให้เหมาะกับช่วงวัยอย่างรายการ Dino plearn หรือการติดต่อสื่อสาร 2 ทางด้วย Facebook live เพื่อให้ผู้ติดตามพิพิธภัณฑ์ได้เรียนรู้เรื่องธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ตลอดเวลา
นางสาวอรอุมา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จะได้ให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้ โดยจัดระบบการเข้าชม และผ่านการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข (SHA) ตามมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว



โดยการเข้าชมพิพิธภัณฑ์จะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิ การเว้นระยะห่าง การลดความแออัดโดยการให้เข้าชมภายในอาคารเป็นรอบๆละ 100 คน ในการเข้าชมแบบหมู่คณะต้องจองเข้าชมล่วงหน้าผ่านทางเวปไซต์พิพิธภัณฑ์สิรินธร www.sdm.dmr.go.th อีกทั้งพิพิธภัณฑ์สิรินธรยังได้มีกิจกรรมไดโนเสาร์สะออนลด 3 เด้ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกับ ททท.สำนักงานขอนแก่น และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.กาฬสินธุ์ ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับส่วนลดในการเดินทางมาเที่ยวจ.กาฬสินธุ์ จากการร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยนักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเพจ พิพิธภัณฑ์สิรินธร-Dinosaur museum หรือ Line@ : @Sirindhornmuseum หรือหมายเลขโทรศัพท์ 043-871-613 ต่อ 118-119

นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภาและกรรมการ บริหารสหภาพรัฐสภา ได้เข้าร่วมการประชุมเสมือนจริง (virtual meeting) ครั้งที่ 3

วันที่ 26 มิถุนายน 2563 เวลา 19.00-23.00 นาฬิกา นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภาและกรรมการ บริหารสหภาพรัฐสภา ได้เข้าร่วมการประชุมเสมือนจริง (virtual meeting) ครั้งที่ 3



ของคณะกรรมการบริหารสหภาพรัฐสภา (The 283rd session of the Executive Committee) ซึ่งมีคณะกรรมการบริหารสหภาพรัฐสภาเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 15 คน ประกอบด้วย กรรมการบริหารฯ จากจีน ซิมบับเว อุซเบกิสถาน แคนาดา ชาด ชิลี ปากีสถาน เซอร์เบีย สวีเดน ยูกันดา ไทย สวิตเซอร์แลนด์ และตัวแทนประธานการประชุมคณะกรรมาธิการสหภาพรัฐสภาสตรี โดยมี นางสาวกาเบรียลลา กูเอบัส บาร์รอน ประธานสหภาพรัฐสภาทำหน้าที่ประธานการประชุมฯ และเลขาธิการสหภาพรัฐสภา เข้าร่วมการประชุมด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับฟังบรรยายสรุปรายงานความโปร่งใสขององค์กร (Transparency report)



ที่จัดทำโดย Ms. Malika Aït-Mohamed Parent ที่ปรึกษาอิสระ และมีมติให้จัดตั้ง Sub-Committee on Transparency เพื่อพิจารณาให้ข้อคิดเห็นเพื่อปรับแก้ไขเนื้อหาของรายงาน ซึ่งจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะมนตรีบริหารสหภาพรัฐสภาเพื่อให้การรับรองต่อไป นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาระเบียบวาระสำคัญ คือ การประชุมสหภาพรัฐสภาในอนาคต โดยที่ประชุมฯ มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางและเห็นชอบให้จัดการประชุมคณะมนตรีบริหารสหภาพรัฐสภาในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual Governing Council) ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 และมีมติให้จัดตั้งคณะเพื่อศึกษาและนำเสนอรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้คณะกรรมการบริหารสหภาพรัฐสภาพิจารณาในการประชุมเสมือนจริงครั้งถัดไป ซึ่งมีกำหนดในวันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2563 เวลา 19.00-23.00 นาฬิกา



อนึ่ง คณะกรรมการบริหารสหภาพรัฐสภาในสัดส่วนกลุ่มภูมิรัฐศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิก ได้แบ่งภารกิจการปฏิบัติหน้าที่ในคณะอนุกรรมาธิการภายใต้คณะกรรมการบริหารฯ ดังนี้ จีนรับหน้าที่ใน Sub-Committee on Transparency ปากีสถานรับหน้าที่ในคณะอนุกรรมาธิการศึกษารูปแบบสำหรับการประชุม Virtual Governing Council และไทยรับหน้าที่ใน Sub-Committee on Finance



ภาพ/ข่าว กฤษรชฏะชญตว์ กฤษพิพัฒนโภคิน ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

ณ ห้องประชุมสำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ ชั้น 3 อาคารรัฐสภา

วันที่ 29 มิถุนายน 2563 เวลา 08.30 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ ชั้น 3 อาคารรัฐสภา นายเจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา





ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ และนายอนาวิล รัตนสถาพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมประชุมคณะมนตรีที่ปรึกษาของสมัชชารัฐสภาอาเซียนว่าด้วยยาเสพติดอันตราย ครั้งที่ 3 (The 3rd Meeting of AIPA Advisory Council on Dangerous Drugs : AIPACODD) ซึ่งเป็นการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล ภายใต้หัวข้อ “การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อมุ่งสู่ประชาคมอาเซียนที่ปลอดยาเสพติด” โดยสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นเจ้าภาพและมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย คณะผู้แทนจากประเทศสมาชิกสมัชชารัฐสภาอาเซียน 9 ประเทศ ผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านยาเสพติด (ASOD) กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของเวียดนาม ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านยาเสพติดจากนานาชาติเกี่ยวกับมาตรการป้องกันยาเสพติดในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19



การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ๆ ละ 1 ครั้ง โดยเป็นกรอบการประชุมของสมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter Parliamentary Assembly : AIPA) เพื่อแสวงหาความร่วมมือของฝ่ายนิติบัญญัติในการปราบปรามภัยคุกคามจากยาเสพติด ซึ่งเป็นความพยายามร่วมกันของประเทศสมาชิก AIPA โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเข้าใจในกลุ่มประเทศสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อต่อสู้กับยาเสพติดอันตราย รวมทั้งรวบรวมและประเมินแนวทางของฝ่ายนิติบัญญัติของกลุ่มประเทศสมาชิกรัฐสภาอาเซียนที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับยาเสพติดเพื่อการบรรลุเป้าหมายประชาคมอาเซียนที่ปลอดยาเสพติดตลอดจนสร้างความร่วมมือและดำเนินการความสัมพันธ์ในการต่อสู้กับยาเสพติด ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อาเซียน ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และชุมชนท้องถิ่น





ภาพ/ข่าว กฤษรชฏะชญตว์ กฤษพิพัฒนโภคิน ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

ผับตะวันแดงป้องโควิด-19 เต็มที่ เตรียมรับมาตรการผ่อนปรนกิจการระยะที่ 5 อาบนวดชื่อดัง เสร็จภารกิจใช้ไฟยูวีฆ่าเชื้อโรค

ผับตะวันแดงป้องโควิด-19 เต็มที่ เตรียมรับมาตรการผ่อนปรนกิจการระยะที่ 5 อาบนวดชื่อดัง เสร็จภารกิจใช้ไฟยูวีฆ่าเชื้อโรค





บรรยากาศกิจการประเภท 5 ในเมืองโคราชภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 อนุญาตให้เปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม นี้

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 มิถุนายน ที่ผับตะวันแดงสาดแสงเดือน (มหาซน) ณ โคราช นายภาคิน หรือโหม่ง เพชรพล ผู้จัดการสาขาพร้อมพนักงานร่วม 50 คน ระดมช่วยกันทำความสะอาดพื้นที่และวัสดุ อุปกรณ์รวมทั้งเครื่องปรับอากาศและติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเพื่อให้ระบบระบายอากาศหมุนเวียนดีขึ้นจากนั้นได้ปรับตกแต่งบรรยากาศและสถานที่ตามข้อกำหนดของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา







นายภาคิน หรือ ผจก.โหม่ง เปิดเผยว่า เดิมพื้นที่ภายในผับตะวันแดงสาขาโคราช ตั้งโต๊ะได้ทั้งสิ้น 280 ตัว รองรองผู้ใช้บริการกว่า 1 พันคน ตามข้อกำหนดต้องจัดพื้นที่นั่งระยะนั่งและยืน 1 เมตร ตามขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อคนและห้ามร่วมโต๊ะกับกลุ่มอื่น จึงตั้งโต๊ะได้ 100 ตัว และจำกัดผู้มาใช้บริการไม่เกิน 400 คน ส่วนบริเวณประตูทางเข้ากำหนดไว้จุดคัดกรอง โดยทุกคนที่เข้าออกต้องเดินผ่านห้องฆ่าเชื้อโรค ซึ่งมีน้ำยาฉีดพ่นโดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด จากนั้นผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่ายกายและใช้สมาร์ทโฟนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” หรือลงทะเบียนในสมุดบันทึก จึงอนุญาตให้ใช้บริการได้ สำหรับพนักงานทุกคนต้องสวมเฟซซิลด์หรือหน้ากากป้องกันฝอยละอองและสวมถุงมือในขณะให้บริการเพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการมาเที่ยวตะวันแดงต้องสนุกสนานและไม่ติดโรคด้วย





ที่“กินซ่า” อาบ อบ นวดชื่อดังโคราช เมื่อเวลา 16.30 น. นายณัฐวุฒิ หรือโหน่ง กาญจนเวนิช ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดกินซ่า เอ็นเตอร์เท็นเมนต์ นำพนักงานจัดเตรียมสถานที่ให้บริการตั้งแต่ทางเข้าร้าน ตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ ติดตั้งอ่างล้างมือ และเจลแอลกอฮอล์แบบอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค มีจุดลงทะเบียนแบบออนไลน์โดยใช้คิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” และแบบลงทะเบียนในสมุดบันทึก สำหรับภายในห้องโถงสำหรับลูกค้า ได้จัดพื้นที่โต๊ะนั่งทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการโดยเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 1 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องฟอกอากาศตามจุดต่างๆ สร้างความมั่นใจ กำชับให้พนักงานทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ บ่อยครั้ง สำหรับห้องบริการนวด หลังเสร็จภารกิจต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อด้วยหลอดไฟแสงยูวีก่อนเปิดบริการต่อไป







นายณัฐวุฒิ หรือโหน่ง ผจก. “กินซ่า” อาบนวดชื่อดัง เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมก่อนหน้านี้ 1 เดือน โดยล้างสะอาดทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องใช้และไม่ใช้อุปกรณ์ที่สัมผัสร่วมกัน โดยเฉพาะแก้วน้ำดื่ม ช้อนต้องฆ่าเชื้อและห่อหุ้มด้วยพลาสติกป้องกันสิ่งปนเปื้อน ขอขอบคุณ ศบค, ที่ผ่อนปรนให้กิจการประเภท 5 กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง พวกเรายินดีปฏิบัติตามมาตรการที่เป็นข้องกำหนดอย่างเคร่งครัด







https://youtu.be/X6ex0mBTDPs


อำนาจ อภัยภักดี ข่าวภาพนครราชสีมา

สิ้นสุดการรอคอยมากว่า 30 ปี ชาวบ้านในหลง และบ้านวังไทร ตำบล แม่หวาด อำเภอธารโต จังหวัดยะลา มีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือนแล้ว

สิ้นสุดการรอคอยมากว่า 30 ปี ชาวบ้านในหลง และบ้านวังไทร ตำบล แม่หวาด อำเภอธารโต จังหวัดยะลา มีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือนแล้ว





วันนี้ 30 มิ.ย.63 นายสัมฤทธิ์ โชติบัณ ผู้อำนวยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต3 (ภาคใต้) ยะลา เป็นประธานในพิธีเปิดการจ่ายไฟในโครงการขยายเขตระบบไฟฟ้า ให้ครัวเรือนที่ห่างไกล ให้กับกลุ่มบ้านในหลง หมู่10 และบ้านวังไทร หมู่2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา โดยมีนายอิสมาแอล จะปะกียา ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเบตง หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนทั้ง 2 หมู่บ้านเข้าร่วม
นายอิสมาแอล จะปะกียา ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเบตง กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเบตง ได้ดำเนินการโครงการขยายเขตระบบไฟฟ้า ให้ครัวเรือนที่ห่างไกล (คฟก.)





โดยได้รับจัดสรรงบประมาณตามโครงการ ให้กับชาวบ้านกลุ่มบ้านในหลง หมู่10 และบ้านวังไทร หมู่2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต ในวงเงินงบประมาณ 6,939,516.66 บาท โดยมมีปริมาณงานก่อสร้างแรงสูง 9.12 วงจร กม. , ก่อสร้างแรงต่ำ 8.32 วงจร กม. และติดตั้งหม้อแปลงจำนวน 5 ลูก 150 KVA. เพื่อให้ชาวบ้าน 70 ครัวเรือน ในพื้นที่บ้านในหลง และบ้านวังไทร ได้มีกระแสไฟฟ้าใช้ หลังจากที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เป็นเวลานานกว่า 30 ปี เนื่องจากทั้ง2หมู่บ้านได้มีการอพยพช่วงที่มีการสร้างและเปิดใช้เขื่อนบางลางในปี 2524 แต่เดิมทั้ง 2 หมู่บ้านไม่มีถนนหนทาง ต้องอาศัยการสัญจรทางน้ำ จนปี 2559-2562 ทางหลวงชนบทได้ดำเนินการก่อสร้างถนนเป็นระยะทาง 9 กม และในวันนี้ชาวบ้านได้มีไฟฟ้าใช้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเบตง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงจะนำความผาสุข ความสว่าง ให้กับชาวบ้าน ที่รอคอยมานานถึง 30 ปี



โยธิน ประชามติรัฐ อ.เบตง จ.ยะลา