วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

“ลดาวัลลิ์”นำคณะยื่นจดตั้งพรรคเสมอภาค พลิกการเมืองให้ขาวสะอาดสกัดคอร์รัปชั่น “แนะ”รัฐบาลใช้หลักธรรม ความรักความเอ็นดูมากกว่าทำลายล้างเข่นฆ่า มาแก้ไขการชุมนุมของนักศึกษา

“ลดาวัลลิ์”นำคณะยื่นจดตั้งพรรคเสมอภาค พลิกการเมืองให้ขาวสะอาดสกัดคอร์รัปชั่น “แนะ”รัฐบาลใช้หลักธรรม ความรักความเอ็นดูมากกว่าทำลายล้างเข่นฆ่า มาแก้ไขการชุมนุมของนักศึกษา





วันที่ 30 ก.ค. 2563 นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานพร้อมด้วย ดร.นิติธร สีเขียว คณะร่วมจดตั้งพรรคและทีมเสมอภาค ได้เดินทางไปยื่นแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคเสมอภาค ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารB) โดยมีประชาชนหลายกลุ่มมาให้กำลังใจ อาทิ ชมรมเสียงสตรีแห่งประเทศไทย นักธุรกิจสตรี ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารา ตัวแทนนักธุรกิจรุ่นใหม่ (Startup) กลุ่ม SME นายธนธรณ์ ทองหอม อดีตผู้อำนวยการสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และพลตรีถิรเดช ทรัพย์เขื่อนขันธ์ ประธานโครงการสุขภาพผู้สูงวัย สภาครูแพทย์แผนไทย นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่าการมายื่นแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคเสมอภาค ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)วันนี้เป็นขั้นตอนแรกในการก่อตั้งพรรคเสมอภาค จะเป็นการพลิกโฉมหน้าการเมืองไทยไปสู่การเมืองในมิติใหม่ที่ประชาชนธรรมดารวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองให้เป็นพรรคของประชาชนบริหารจัดการโดยประชาชนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาชนทุกสาขาอาชีพจะมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเป็นรูปธรรม ประชาชนจะเป็นผู้อุปถัมภ์พรรคให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง





พรรคเสมอภาคเมื่อดำเนินการก่อตั้งครบทุกขั้นตอนแล้วจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับประชาชนที่ไม่ชอบความขัดแย้ง ไม่ชอบความอยุติธรรม ไม่ชอบการเลือกปฏิบัติ ไม่ชอบการทุจริตคอรัปชั่น ไม่ชอบความเหลื่อมล้ำรวยกระจุกจนกระจาย ประชาชนที่อยากให้เศรษฐกิจฟื้น อยากให้คนไทยหลุดพ้นจากความยากจนหนี้สินล้นพ้นตัว อยากให้คนไทยมีสุขภาพดีมีเงินใช้จากการประกอบอาชีพอย่างมีศักดิ์ศรี ว่าที่พรรคเสมอภาคพร้อมรับมอบอำนาจหน้าที่จากประชาชนไปบริหารประเทศให้ฟื้นกลับมาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วสามารถยืนอยู่ในระดับแถวหน้าในอาเซียนและในภูมิภาคเอเชียอีกครั้ง หลังจากวันนี้เป็นต้นไปก็จะเตรียมการประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ภายใน 180 วัน โดยจะต้องมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งจำนวน 500 คนและทุกคนต้องบริจาคสนับสนุนให้พรรคคนละ 1,000-50,000 บาทตามที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดไว้ ดิฉันจึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจอยากมีส่วนร่วมสร้างการเมืองแนวใหม่ ที่มุ่งทำงานอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้มีความเสมอภาคในทุกด้าน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ให้ประชาชนมีส่วนก่อตั้งพรรคด้วยตัวเอง บริจาคช่วยพรรคด้วยความเต็มใจ ร่วมคิดนโยบายดีๆ และมีส่วนร่วมสร้างนักการเมืองที่เป็นคนเก่งและเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริตไปทำหน้าที่ในรัฐสภา และไปบริหารประเทศ วันนี้ประชาชนที่รักประเทศชาติต้องมาร่วมมือกับว่าที่พรรคเสมอภาคเปลี่ยนการเมืองให้ขาวสะอาดปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียงซึ่งเป็นต้นเหตุของการทุจริตคอรัปชั่น โดยเรามีโครงการส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้อย่างมั่นคงให้แก่ประชาชนและสมาชิกพรรคในระดับหมู่บ้าน ระดับตำบลทั่วประเทศ

นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า ทีมเสมอภาคได้ร่างนโยบายสำคัญไว้เสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่สามัญเพื่ออนุมัติให้เป็นนโยบายพรรคเสมอภาคหลายเรื่อง เช่น การพึ่งตนเองพัฒนาตนเองให้อยู่รอดได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก โดยมีนโยบายฟื้นเศรษฐกิจของประเทศจากเศรษฐกิจฐานรากขึ้นมาถึงระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เรามีแนวทางที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยมีความมั่งคั่งร่ำรวย มีเงินใช้หนี้สาธารณะจำนวนมหาศาลในปัจจุบันนี้ได้โดยใช้เวลาไม่นาน เรามีแนวทางส่งเสริมศักยภาพของนักธุรกิจนักลงทุน ผู้ประกอบการภาคเอกชนให้เข้มแข็งสามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก จะส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้ตลอดปี เรามีนโยบายที่จะตั้งกระทรวงสมุนไพรไทยและการแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไทยจะสามารถสร้างสุขภาพที่ดีให้คนไทยตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยชรา จะช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้คนไทยอย่างมหาศาล สมุนไพรไทยจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกยารักษาโรค อาหารปลอดภัย อาหารเป็นยาและเวชสำอางรายใหญ่ของโลก ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และจะเป็นศูนย์กลางบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมหรือ Wellness Center ของชาวโลก ด้วยประสิทธิภาพของการแพทย์แผนไทยคู่ขนานไปกับการแพทย์แผนตะวันตก

นางลดาวัลลิ์กล่าวถึงนโยบายด้านคมนาคมขนส่งของว่าที่พรรคเสมอภาคว่าจะสนับสนุนการพัฒนาคลองไทยให้เป็นศูนย์กลางพาณิชย์นาวีแห่งใหม่ของโลก ซึ่งหลายองค์กรได้ศึกษาความเป็นไปได้พอสมควรแล้วสามารถดำเนินโครงการได้ทันทีเมื่อกำหนดเป็นนโยบายรัฐบาลซึ่งจะเกิดธุรกิจการลงทุน การค้าขาย ธุรกิจบริการเชื่อมโยงต่อเนื่องอย่างกว้างขวาง จะช่วยแก้ไขปัญหาการตกงานว่างงานได้อย่างเป็นรูปธรรม จะสามารถยกระดับรายได้ของประเทศให้มั่งคั่ง ยั่งยืน

ส่วนนโยบายด้านสังคม และการเมืองการปกครองนั้นนางลดาวัลลิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ว่าที่พรรคเสมอภาคมีเป้าหมายจะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นสังคมอุดมธรรม สังคมอุดมปัญญา สังคมแห่งความดีงาม วัดคุณค่าของคนด้วยความดีมีคุณธรรมจริยธรรม ละอายเกรงกลัวต่อการทำความชั่ว และเป็นสังคมแห่งการแบ่งปันด้วยเมตตาธรรม ส่งเสริมสนับสนุนสิทธิของประชาชนทุกเพศทุกวัยทั้งเด็ก เยาวชน บุรุษ สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มชาติพันธุ์ และกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้อย่างเสมอภาค เราจะปรับปรุงแก้ไขอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นการกระจายอำนาจการปกครองอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนบริหารจัดการตนเองได้ตามกฎหมาย จะให้มีกองทุนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาในหมู่บ้าน ในชุมชนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นางลดาวัลลิ์ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามความคิดเห็นต่อกรณีคดี”บอส อยู่วิทยา” และกรณีการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนทั่วประเทศว่า ทั้งสองกรณีดังกล่าวก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวแสดงออกทางสังคมในวงกว้าง ตนรู้สึกเป็นห่วงจะเกิดความรุนแรง มีการใช้กำลังและอาวุธสลายการชุมนุม เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการลงทุน ความเชื่อมั่นของประเทศ เหมือนเหตุการณ์รุนแรงหลายๆครั้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความเห็นที่ขัดแย้งกันของกลุ่มคนสองฝ่าย แต่กลุ่มคนที่อยู่ตรงกลางไม่เห็นด้วยกับทั้งสองฝ่ายก็พลอยได้รับผลกระทบที่เสียหายทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและการเมืองไปด้วย และวันนี้คนไทยเราก็กำลังเผชิญกับมหาวิกฤตของโลกทั้งเศรษฐกิจทรุด และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19คร่าชีวิตชาวโลกไปนับล้านคน ต้องปิดเมืองปิดประเทศ เรากำลังยากลำบากกันทุกหย่อมหญ้า ตนไม่อยากให้เกิดวิกฤติมาซ้ำเติมสังคมไทยให้ย่ำแย่ยิ่งไปกว่านี้อีก อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน หาทางออกร่วมกันให้ได้ โดยยึดความสงบสุขของบ้านเมืองเป็นหลัก เคารพสิทธิและหน้าที่ของกันและกัน

“ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในสองกรณีดังกล่าวนี้ ควรดับอารมณ์ แล้วเปิดอารมณ์ใหม่ภายใต้กรอบธรรมของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญญาในการแก้ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาการเมือง หลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นอมตะไม่เคยเปลี่ยนแปร เป็นเนื้อแท้ธรรมชาติของมนุษย์ ประกอบด้วย ความรัก ความเอ็นดู เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มากกว่าการทำลายล้าง เข่นฆ่า


ส่วนกฎหมายนั้น เปลี่ยนแปรไปตามอำนาจของผู้มีอำนาจแต่ละยุคสมัย หรือกฎหมาย คือชัยชนะของเสียงข้างมากซึ่งอาจไม่ยุติธรรมเสมอไป


เพราะฉะนั้นในทุกภาคส่วน ทุกวงการ ทุกสายงาน ในประเทศไทยต้องยึดหลักธรรมเป็นสำคัญ ส่วนกฎหมายก็ต้องสร้างให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุดให้ได้” นางลดาวัลลิ์กล่าว.



ทรงวุฒิ ทับทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น