“ส.ว.วีระศักดิ์” ห่วงคุณภาพน้ำดื่มของไทยยังไม่ได้มาตรฐาน แนะยกเป็นนโยบายหาเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา เขียนบทความเรื่อง “น้ำดื่มของคนไทย” ระบุว่า กรมอนามัยกำหนดเกณฑ์คุณภาพของน้ำบริโภคมาตั้งแต่ พ.ศ. 2533 สมัยพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ โดยกำหนดตัวชี้วัด 20 องค์ประกอบในการตรวจ เช่น ความเป็นกรดด่าง ความขุ่น สี คุณภาพทางเคมีว่าพอน้ำระเหยหมดแล้วทิ้งสารละลายอะไรไว้ น้ำมีความกระด้างแค่ไหน มีซัลเฟต คลอไรด์ ไนเตรท ฟลูออไรต์ โลหะหนักอย่างเหล็ก ทองแดง สังกะสี แมงกานีส มีตะกั่ว โครเมียม แคดเมียม ปรอท และสารหนูไม่เกินเท่าใด มีแบคทีเรียประเภทโคลิฟอรม์ และ ฟิคัลโคลิฟอร์มไม่เกินเท่าใด
แต่จนเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน 2562 กรมอนามัยได้ให้การรับรองระบบน้ำประปาที่เทศบาลต่างๆ ผลิตและจำหน่ายไปตามบ้านประชาชนแล้วได้เพียง 518 เทศบาล แปลว่ารับรองมาตรฐานตาม EHA หรือ Environmental Health Accreditation ไปแล้วเพียง 10% ของจำนวนระบบประปาที่เทศบาลต่างๆ ผลิตกันอยู่ 5 หมื่นแห่ง คงอีกนานกว่าจะครบ
สำหรับผู้อ่านที่ดื่มน้ำจากการประปาภูมิภาคและการประปานครหลวงไม่ต้องตกใจ เพราะนี่เป็นสองหน่วยที่มีระบบตรวจคุณภาพน้ำทั้งโดยหน่วยผลิตน้ำประปาเองและจากหน่วยตรวจภายนอก ได้ระดับมาตรฐาน คนเมืองใหญ่ส่วนมากจึงถอนใจโล่งอกพอได้
อย่างไรก็ตาม นอกจากน้ำประปาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผลิตแล้ว คนไทยในหลายพื้นที่ บริโภคน้ำจากบ่อบาดาล และจากบ่อน้ำตื้นอีกเยอะพอควร การดื่มน้ำต้มสุกนั้น ช่วยกำจัดแบคทีเรียได้ แต่พวกโลหะหนัก และเคมีหลายอย่าง ความร้อนจะจัดการได้ไม่หมด ตนเป็นเด็กนักเรียนต่างจังหวัด จึงชินกับการดื่มตรงจากก๊อกประปา หรือจากถังน้ำฝน เมื่อเข้ามาเรียนต่อมัธยมในกรุงเทพ โรงเรียนมีระบบก๊อกเป็นแถวยาวแบบฉีดน้ำพุ่งขึ้นมาตรงๆ ให้นักเรียนดื่มจากประปาได้สะดวก ไม่ต้องเอียงหงายคอม้วนเป็นห่าน มุดไปใต้ก้อกน้ำเหมือนอย่างตอนเรียนที่ต่างจังหวัด
ปัจจุบัน การดื่มน้ำจากตู้หยอดเหรียญ เข้ามาเสริมแทนอย่างแพร่หลาย จึงติดตามหาความรู้ต่อจากเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ซึ่งเพิ่งสำรวจเมื่อปี 2558 ทำให้พบว่า แม้น้ำประปาก่อนเข้าตู้กดน้ำหยอดเหรียญจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ผลตรวจน้ำที่ออกจากตู้กลับปนเปื้อนแบคทีเรีย!! สาเหตุเพราะภาชนะเก็บน้ำในเครื่องกรองไม่สะอาด ไม่ก็ไส้กรองน้ำไม่ได้รับการเปลี่ยนตามเวลา
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ตู้หยอดเหรียญในพื้นที่กรุงเทพฯที่สำรวจใน18 เขต เป็นตู้เถื่อนถึง 91.76%!!
คำว่าเถื่อน อาจไม่แปลตรงตัวว่าไม่สะอาดแต่คือตู้ไม่มีใบอนุญาตตามที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กำหนด เพราะตู้หยอดเหรียญเป็นสินค้าควบคุมฉลาก ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ 2533 แล้ว
สิ่งที่พบต่อคือ
ตู้เหล่านี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นมากถึง 76.3 % เช่นตั้งริมถนนที่มีฝุ่นจากยวดยานผ่านไปมาจำนวนมาก มีที่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งระบายน้ำเสียหรือมีน้ำขัง 28.3% และตั้งอยู่ใกล้ที่ทิ้งขยะ 22%
พอปี 2560 จึงมีการสำรวจซ้ำแบบปูพรม 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานคร พบปัญหาทุกข้อข้างต้น ไม่ต่างจากเดิม
ข้อเขียนนี้จึงบอกได้กลายๆ ว่า การมีน้ำในท่อประปาที่สะอาดมีมาตรฐานมาถึงชุมชนนั้น สะดวกดีแล้ว แต่ถ้าปล่อยเผลอการด์ตก
ก็น่าคิดทบทวนเหมือนกัน ไหนๆ รัฐบาลออกประกาศให้เตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นในปลายปีนี้จนปลายปีหน้า ใครจะคิดลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น คงต้องพูดถึงปัญหานี้กันเสียที เพราะเราทุกคนดื่มน้ำกันวันละหลายลิตร ถ้านับน้ำแปรงฟันบ้วนปากด้วยก็จะราว ๆ 5 ลิตรต่อวัน น้ำที่ผ่านเข้าปากของพี่น้องราษฏรทุกวัน ย่อมมีผลต่อสุขอนามัยของสังคมอย่างน่าสนใจ
องค์กรส่วนท้องถิ่นทั่วไทยจึงควรเร่งตื่นตัวในการประเมินระบบน้ำดื่มในเขตท่านกันเสียแต่บัดนี้ ทำความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เจ้าหน้าที่อนามัยในพื้นที่ ให้ลองสำรวจตรวจตราเสียจะดีมาก จากนั้นก็คอยติดตาม ตรวจสอบ อบรมให้บรรดาตู้น้ำมีการเปลี่ยนไส้กรอง ทำความสะอาดภาชนะภายในตู้ให้ดี รวมทั้งวางตู้ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม
ในปี 2558 ปีเดียว กรมควบคุมโรค พบผู้ป่วยท้องร่วงจากการดื่มน้ำไม่สะอาดเกิน 1 ล้านราย ทำให้ปีนั้นมีการตื่นตัวติดตามเตือนพื้นที่ต่างๆกันยกใหญ่ แต่กระนั้น ช่วงมีนา-เมษายนของปี 2561 เดือนเดียวก็ยังเจอผู้ป่วยท้องร่วงถึงสองแสนราย อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจค่าเฉลี่ยคุณภาพน้ำบริโภคครัวเรือนย้อนหลัง 10 ปี พบว่าค่าเฉลี่ยดีขึ้น แต่ยังมีอาการขึ้นๆ ลงๆ และโดยรวมแล้วยังอยู่ในระดับต่ำไปหน่อย
นอกจากนี้ ก็มีข้อค้นพบอีกคือภาชนะกักเก็บ และท่อน้ำในครัวเรือนยังไม่ได้ระบบมาตรฐาน ดังนั้นการต้มน้ำให้สุกก่อนดื่มจึงยังสำคัญมาก
น้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำทิ้ง จึงไม่ใช่ปัญหาเวียนซ้ำของไทยอย่างเดียวที่เกี่ยวกับน้ำ น้ำบริโภคก็ต้องไม่ถูกมองข้ามเช่นกัน
ภาพ/ข่าว กฤษรชฏะชญตว์ กฤษพิพัฒนโภคิน ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน
วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2563
“ส.ว.วีระศักดิ์” ห่วงคุณภาพน้ำดื่มของไทยยังไม่ได้มาตรฐาน แนะยกเป็นนโยบายหาเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น