วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองนางสุจิตรา ทุไร (H.E. Ms. Suchitra Durai) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย

วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 10.20 นาฬิกา ณ ห้องรับรอง ชั้น 25 อาคารสุขประพฤติ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองนางสุจิตรา ทุไร (H.E. Ms. Suchitra Durai) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับหน้าที่และเพื่อมอบหนังสือเชิญเยือนจากประธานวุฒิสภา สาธารณรัฐอินเดียมายังประธานวุฒิสภา โดยมี นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ นายบรรชา พงศ์อายุกูล สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะคณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-อินเดีย และ นายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมให้การรับรอง





ประธานวุฒิสภา กล่าวขอบคุณรองประธานาธิบดี ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร สาธารณรัฐอินเดีย สำหรับคำเชิญให้เดินทางไปเยือนอินเดีย โดยเชื่อมั่นว่าการแลกเปลี่ยนการเยือนจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกล่าวถึงความสัมพันธ์ของไทยและอินเดียมีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเป็นเวลาถึง 73 ปี ซึ่งทั้งสองประเทศมีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่เชื่อมโยงกันในทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรมแต่โบราณกาลซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนและความร่วมมือต่างๆ ของทั้งสองประเทศ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศได้มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาระหว่างกันขึ้นเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านนิติบัญญัติให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น



โอกาสนี้ได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่งที่ประชาชนชาวอินเดียจำนวนมากเสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 เชื่อมั่นว่าการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ทุกประเทศจำเป็นต้องร่วมมือกันและทำงานร่วมกันในการรับมือกับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และแสดงความชื่นชมในความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดของทั้งสองประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีของไทยและอินเดียได้ปรึกษาหารือกันถึงความร่วมมือในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และขอขอบคุณความช่วยเหลือจากอินเดียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการอำนวยความสะดวกจัดเที่ยวบินส่งคนไทยกลับประเทศและในการส่งออกสินค้าประเภทยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์มายังประเทศไทย พร้อมนี้ ได้กล่าวว่า วุฒิสภาพร้อมจะให้การสนับสนุนการทำงานของเอกอัครราชทูตฯ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ



ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า จะสนับสนุนและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อคิดเห็นระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในแต่ละประเทศ อีกทั้งยังได้แสดงความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ในประเทศไทยเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศในทุกด้าน





ภาพ/ข่าว กฤษรชฏะชญตว์ กฤษพิพัฒนโภคิน ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของคุณ อ่านเพิ่มเติม