วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2564

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ศรีสาคร หลังคนร้ายระเบิดจนท.เจ็บ พร้อมสั่งคุมเข้มพื้นที่ป้องกันป่วนสร้างสถานการณ์ เพิ่มแผนเฝ้าระวังคุมเข้มพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ศรีสาคร หลังคนร้ายระเบิดจนท.เจ็บ พร้อมสั่งคุมเข้มพื้นที่ป้องกันป่วนสร้างสถานการณ์ เพิ่มแผนเฝ้าระวังคุมเข้มพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้



เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 31 มกราคม 2564 ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส พลโท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ .4/ผอ.รมน.ภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เหตุการณ์ คนร้ายรอบวางระเบิดและยิงเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ รวม 6 นาย ทั้งในพื้นที่ อ.จะแนะ และ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส โดยมี พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส ให้การต้อนรับ และร่วมรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
จากเหตุการณ์ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้สรุป เหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 31 มกราคม 2564 ในพื้นที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้สร้างสถานการณ์ก่อกวนในหลายจุด ดังนี้
1.คนร้ายได้ตัดโค่นต้นไม้ขวางถนนพร้อมวางวัตถุต้องสงสัยและเผากล้องวงจรปิด สถานที่เกิดเหตุ ถนนสายดุซงญอ-ร่มไทร บริเวณบ้านริแง ม.3 ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ใกล้เขตรอยต่อกับบ้านไอร์ปีแซ
2.เผากล้อง cctv ของตำรวจ บริเวณตลาดชุมชนเมาะตาโกะ ม.4 บ้านเมาะตาโกะ ต.ผดุงมาตร 3.แขวนป้ายผ้า ห้ามไทยพุทธเข้ามาทำมาหากินพื้นที่ไทยมุสลิม บริเวณกูโบ บ้านสุแฆ รวมทั้ง ลอบวางเพลิงเผาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ของบริษัททรู และดีแท็ค ในพื้นที่ ม.6 บ้านไอร์กาแซ ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส



ต่อมาชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส จำนวน 5 นายได้ใช้รถกระบะสีขาว 4 ประตู นำเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือของบริษัททรูและดีแท็ค หลังถูกคนร้ายลอบวางเพลิงได้รับความเสียหาย แต่ปรากฏว่าระหว่างทางนั้นคนร้ายได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 20 กก. ฝังไวัใต้พื้นถนนจนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้รถกระบะของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนถูกแรงระเบิดพลิกคว่ำได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บทันที 5 นายดังนี้ 1.จ.ต.อ.พนมกร แซ่อ่อน 2.ส.ต.อ.ธีรศักดิ์ พรภักดี 3.ด.ต.ยุทธกร เรืองเพ็ง 4.ส.ต.อ.นเรศ สัญกูล 5.ส.ต.ท.ปิยพงศ์ เพชรจำรัส

ด้านพลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาพ 4 ได้สั่งการให้หน่วยกำลังในพื้นที่และใกล้เคียง วางกำลังเชิงรุกคุมเข้มพร้อมกระจายกำลังปิดล้อม ตรวจค้นพื้นที่เกิดเหตุในรัศมี 2 กิโลเมตร เชื่อว่าคนร้ายน่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุลอบเผาเสาส่งสัญญาณมือถือและเหตุก่อกวนในหลายจุด โดยบูรณาการณ์สนธิกำลังร่วมกับอาสาสมัครประจำพื้นที่ จัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณเส้นทาง/พื้นที่ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีและหลบซ่อนตัว รวมไปถึงการลาดตระเวนเส้นทางและจรยุทธ์ในพื้นที่ล่อแหลม



และจากการรับฟังรายงานสถานการณ์ กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่เคยละความพยายามในการที่จะก่อเหตุ โดยอาศัยช่องว่าง โอกาส ทางหนีไว้พร้อม และลงมือปฏิบัติการทันที ซึ่งถึงแม้ว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะลดน้อยลง เพราะเกิดจากการปฏิบัติการเชิงรุกและความร่วมมือของทุกส่วน ที่มีการติดตามเป้าหมาย ป้องกันอย่างแน่นหนา และปรับกลยุทธ์แล้วก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยังมีช่องว่างในการก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้ก่อเหตุหวังผลในการแสดงตนสร้างสถานการณ์ ก่อกวน ถึงแม้ว่าจะถูกรัฐจำกัดเสรีในการก่อเหตุ พร้อมมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้เกิดการกระตุ้นเตือน เพิ่มมาตรการคุมเข้มให้เจ้าหน้าที่ได้นำช่องว่างที่เกิดขึ้นมาแก้ไข และขอให้ประชาชนได้มั่นใจเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
และขอความร่วมมือ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น พี่น้องประชาชน หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหว หลบซ่อนในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง》
จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปยังโรงพยาบาลศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส เพื่อเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 3 ราย คือ ส.ต.อ.ธีรศักดิ์ พรภักดี ,ส.ต.อ.นเรศ สัญกูล และ ส.ต.ท.ปิยพงศ์ เพชรจำรัส ซึ่งอีก 2 รายได้นำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ คือ จ.ต.อ.พนมกร แซ่อ่อน และ ด.ต.ยุทธกร เรืองเพ็ง ทั้งหมดอาการปลอดภัยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น