วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงลึกแก่ชุดลาดตระเวนร่วมประจำตำบลเสี่ยง ปี 2564

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงลึกแก่ชุดลาดตระเวนร่วมประจำตำบลเสี่ยง ปี 2564





นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและมอบนโยบายพร้อมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติแก่ชุดลาดตระเวนร่วมประจำตำบลเสี่ยงของจังหวัดเชียงราย เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่หอประชุมคชสาร ศูนย์บูรณาการการเรียนรู้และนันทนาการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ถนนสหมิตร ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย โดยมี นายอารุณ ปินตา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมเจ้าหน้าที่ และกำลังพลชุดลาดตระเวนร่วมประจำตำบลเสี่ยงของจังหวัดเชียงราย ปี 2564 เข้ารับนโยบายและแนวทางการปฏิบัติด้วยความพร้อมเพรียง

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ มีการมอบเงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีให้กับครอบครัวของนายเงิน นาหยิ ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เข้าช่วยดับไฟป่าในพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ต่อจากนั้น เป็นการแนะนำอธิบายการใช้ Mobile Application "Smoke Watch" ต่อด้วยการชี้แจงแนวทางการปฏิบัติของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย และมณฑลทหารบกที่ 37 ตามลำดับ





การปฏิบัติการของชุดลาดตระเวนร่วมประจำตำบลเสี่ยง จะมุ่งเป้าไปที่พื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า การลักลอบเผาในที่โล่งรุนแรง และพื้นที่ควบคุมเข้มข้นพิเศษ 32 ตำบล ในจำนวน 13 อำเภอ โดยความร่วมมือสนับสนุนจากสำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ องค์การมหาชน และศูนย์เตรียมความพร้อมปองกันภัยพิบัติแห่งเอเซีย ที่ยังได้นำเทคโนโลยีการแจ้งสถานะผ่าน Mobile Application "Smoke Watch" มาปรับใช้ในการปฏิบัติงานในภาคสนามอีกด้วย

การจัดชุดลาดตระเวนร่วมประจำตำบลเสี่ยง ถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในกระบวนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดไฟป่าและฝุ่นควันของจังหวัดเชียงราย ที่ส่งผลต่อการป้องกันและควบคุมจุดความร้อนจากการเผาในพื้นที่ ได้ทำหน้าที่สอดส่อง ดูแล สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน อีกทั้ง ป้องปรามกำจัดการลักลอบเผาในแบบที่ฝังตัวอยู่ในพื้นที่เสี่ยง มีการประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยาน รวมถึงผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานด้านการเกษตรและจิตอาสา เพื่อตอบสนองแนวทางของจังหวัดเชียงราย "จะไม่เกิดควัน ถ้าไม่มีใครเอาไฟเข้าไปจุด" อีกทั้ง หากสถานการณ์ในพื้นที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะวิกฤติ จะพิจารณาปรับรูปแบบและจำนวนชุดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย เพื่อแสดงออกซึ่งจิตใจที่เสียสละมาร่วมกันขจัดปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันให้หมดสิ้นไปจากบ้านของเรา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น