กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีค่า PM 2.5 ระหว่าง 44 - 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรโดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด 1 พื้นที่ คือ ต.ในเมือง อ.เมือง จว.พ.ล., ค่า PM 10 ระหว่าง 65 - 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรโดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จว.ล.ป. และ ค่าAQI ระหว่าง 76 – 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง ถึง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะจังหวัด ลำปาง
ทั้งนี้สถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน 17 จังหวัดภาคเหนือ จากจำนวน Hotspot (ดาวเทียมระบบ VIIRS) ห้วงวันที่ 1 - 7 ก.พ. 64 พบจำนวน 4,341 จุด โดยเฉพาะใน พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 1,536 จุด มีพื้นที่ที่จุดความร้อนมากที่สุด คือ จว.ต.ก. จำนวน 433 จุด พื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 1,782 จุด มีพื้นที่ที่จุดความร้อนมากที่สุด คือ จว.ล.ป. จำนวน 394 จุด และเขต สปก. จำนวน 357 จุด มีพื้นที่ที่จุดความร้อนมากที่สุด คือ จว.พ.ช. จำนวน 100 จุด
ในส่วนของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าที่ผ่านมา พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ขอให้ กอ.รมน.จว. และ ชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึก 15 ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเรื่องการดูแลสุขภาพช่วงเกิดภาวะหมอกควัน ตลอดจนรณรงค์ลดการเผาในพื้นที่.
https://youtu.be/h5IsDNhAm80
ทรงวุฒิ ทับทอง / กาญจนา เกตุทองมา
วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
(คลิป) กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีค่า PM 2.5 ระหว่าง 44 - 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรโดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด 1 พื้นที่ คือ ต.ในเมือง อ.เมือง จว.พ.ล., ค่า PM 10 ระหว่าง 65 - 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรโดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จว.ล.ป. และ ค่าAQI ระหว่าง 76 – 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง ถึง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะจังหวัด ลำปาง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น