วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

อาสาสมัครคุมประพฤติเชียงใหม่ฝางประชุมประจำปี

อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว
อาสาสมัครคุมประพฤติเชียงใหม่ฝางประชุมประจำปี



19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13.30น
สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่สาขาฝาง จัดประชุมประจำปีซึ่งทางพระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดป่าไม้แดง(พระเจ้าพรหมมหาราช)ได้มาร่วมให้โอวาทให้อยุ่ร่วมกันโดยการเอื้ออาทรต่อกันช่วยเหลือกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน การให้ที่ดีเลิศที่สุด"การให้อภัย"และยังเป็นพระที่หาเครื่องเป่าลมมาสมทบช่วยเหลือการรักษ์ป่า ป้องกันไฟป่าในปีนี้กับหน่วยงานอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผาซึ่งกินพื้นที่3อำเภอ2จังหวัด จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ทางนายวีรชาติ จันทจร ผู้อำนวยการ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่ สาขาฝาง ได้จัดประชุมสรุปงานในการที่ทางสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่สาขาฝาง และจิตอาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่สาขาฝางจำนวน100กว่าคนได้เข้าร่วมประชุมที่ ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของอาสาสมัครคุมประพฤติฝางและแนวการปฏิบัติงานในปีงบประมาณปี พศ2564ซึ่งได้ร่วมปฏิบัติงานในปีที่ผ่านมา สำเร็จลุล่วงไปอย่างดีเยี่ยมและเป็นคณะทำงานที่น้อมนำเอาแนวปรัชญาตามแนวพระราชดำริ มาใช้ ทั้งการทำงาน และให้การช่วยเหลือผู้ถูกคุมประพฤติ ในการหาทุนทรัพย์มาช่วยเป็นทุนการประกอบอาชีพเพื่อให้เขาสามารถอยุ่ในสังคมได้อย่างพลเมืองดีทั่วไปร่วมกับประชาชนปกติ มีการจัดอาชีพเลี้ยงไก่ประดู่หางดำ การเลี้ยงกบ การขายก๋วยเตียว การปลูกพืชผักเพื่อเลี้ยงชีพตนและครอบครัวเพื่อให้สามารถอยุ่ได้ และทางจิตอาสาสมัครคุมประพฤติทุกคนนั้นได้ร่วมทำการช่วยดูแลผู้ถูกคุมประพฤติให้อยุ่ในสังคมเป็นพลเมืองดีในสังคม และในวันนี้ทางนายสิทธิ วิมาลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา ได้ร่วมเป็นวิทยากรขอความร่วมมือช่วยเหลือเรื่องการควบคุมไฟป่าโดย



ขอทางอสค ช่วยเป็นแหล่งการข่าวป้องกันการลักลอบเผาป่าและเป็นผู้ให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของป่าต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ และได้รับมอบเครื่องเป่าลมดับไฟป่า/สร้างแนวกันไฟป่าด้วยจำนวน5เครื่อง แล้วมีการเลือกคณะกรรมการของชมรมอาสาสมัครคุมประพฤติฝางจำนวน 22 ท่านเป็นตัวแทนของอาสาสมัครคุมประพฤติฝาง เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันวางแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันเป็นแนวเดียวกันให้เกิดความสำเร็จในการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างสามัคคีในการทำงานดูแลผู้ถูกคุมประพฤติให้เป็นพลเมืองดีต่อไปในสังคมการแก้ปัญหาแออัดในเรือนจำซึ่งในประเทศไทยมีเรือนจำ143แห่งมีผู้ต้องโทษหรือนักโทษ จำนวน380,000คนพื้นที่รองรับ 220,000คนซึ่งมีจำนวนมากกว่าพื้นที่รองรับ จึงต้องทำการคุมประพฤติโดยการใส่เครื่องEM หรือเครื่องมืออิเลคทรอนิคติดตามตัวผู้ต้องโทษชั้นดีที่ออกมาอยุ่นอกคุกเพื่อทำการคุมประพฤติติดตามได้และสามารถอยุ่ร่วมกับสังคมทั่วไปได้อย่างปกติสุขร่วมกัน แล้วยังมีการรับสมัครบุคลากรอาสาสมัครเพิ่มอีกใน3อำเภอ อำเภอฝาง อำเภอไชยปราการ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่แล้วยังมีการเข้าฐานศึกษายุติวิธีดับไฟป่า ฐานเครื่องติดตามEM ฐานติดตามเฝ้าดูแลผู้ถูกคุมประพฤติ ฐานกฏระเบียบการปฏิบัติงานของอาสาสมัครคุมประพฤติที่ต้องปฏิบัติแนวทางเดียวกันของสำนักงานคุมประพฤติทั่วไทย





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น