วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

รมว.ยุติธรม ลงพื้นที่อุดรฯ มอบเงินช่วยครอบครัวตำรวจถูกแก๊งค้ายาซิ่งแหกด่านชนเสียชีวิต

รมว.ยุติธรม ลงพื้นที่อุดรฯ มอบเงินช่วยครอบครัวตำรวจถูกแก๊งค้ายาซิ่งแหกด่านชนเสียชีวิต
พร้อมเปิดอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพยึดทรัพย์-ให้นโยบายปราบปรามยาเสพติด
ยันนายกฯ ติดตามเอาจริงเอาจัง ย้ำเป้าหมายยึดทรัพย์ 6 พันล้าน



ชี้สืบเส้นทางธุรกรมลดการสูญเสียเจ้าหน้าที่ไม่ต้องลงพื้นที่ปะทะมาก :
วันที่ 11 ก.พ. 64 เวลา 11.30 น. ที่ โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อุดรธานี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการฝึกอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์คดี
ยาเสพติด และมอบนโยบายแนวทางมาตรการ ในการปราบปรามยาเสพติดแนวใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวน
ขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ให้แก่ ตำรวจ อัยการและผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12 จังหวัด โดยมี นายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด นายวิชัย ไชยมงคล
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่ราชการอุดรธานี พล.ท.ธเนศ
วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พล.ต.ท. ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต. พิษณุ อรุณหเสรี
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัตอุดรธานี พล.ต.บุญสิ พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พล.ต.พิทักษ์ บุญจันทร์
ผู้บัญชาการมลหลทหารบกที่ 24 พล.ต.ต กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ให้การต้อนรับ
โดยในช่วงแรกนายสมศักดิ์ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย น้อมระวี รอง สว.กก.3 บก.ปส.2
ผู้กอง ตร.ปส. ที่ถูกแก๊งค้ายาแหกด่านหนีพุ่งชนจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 ถือเป็นการเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่จากการ
ปราบปรามยาเสพติด เป็นงินค่าตอบแทนจ้าหน้าที่และเงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานยาเสพติด พ.ศ.2561 จำนวน 500,000
บาท โดยมี ทายาทผู้รับมอบงินตอบแทนฯ 4 คน ประกอบด้วย 1.นางคำกอง น้อมระวี มารดา
2. นส.เควรี น้อมระวี ลูกสาว
3.นายวีะเกียรติ น้อมระวี ลูกชาย และ4 ดช.อภิวัฒน์ชัย น้อมระวี ลูกชาย
จากนั้นนายสมศักดิ์ กล่าวมอบนโยบายในการปราบปรามยาเสพติดว่า การประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและ
ปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 8 กพ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบาย
ยาเสพติด ที่มุ่งเน้นการบูณาการ การทำงานร่วมกันในการตัดวงจรยาเสพติด รวมถึง การปราบปรามอย่างเข้มข้น เพื่อให้
สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานดังกล่าว ตนจึงได้กำหนดเป้าหมายการขยายผล อายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดให้ได้ 6,000
ล้านบาท ภายใต้การดำเนิงานของ "ศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด" มุ่งตัดวงจรยาเสพติด โดยกำหนดเป็นมูลค่า
การยืดทรัพย์สินกระจายสู่ระดับจังหวัด รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถทั้งด้านการ
สืบสวนสอบสวน



เพื่อตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้จัดโครงการฝีกอบรมหลักสูตร
เพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสกติด ระหว่างวันที่ 10 - 12 กพ.โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล
เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในพิธีเปิด มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด มืองค์ความรู้เกี่ยวกับ
การสืบสวนขยายผลดดียาเสพติต การรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดียาเสพติด การสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดให้เกิดประสิทธิภาพสอดคล้องตามแนวทางของรัฐบาล
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในปี 2561 รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม มุ่งเน้นที่จะริบทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำ
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ได้ จำนวนมากขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า คือ 6,000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อยเพื่อเป็นการลิดรอน
ศักยภาพของนักค้ำยาเสพติด ในการดำเนินงานตรวจสอบและริบทรัพย์สินที่ผ่านหากคำนวณจากปริมาณ ยาเสพติดที่แพร่
ระบาดอยู่มาเป็นตัวงิน จะมีมูลค่ามากถึงหลักล้านบาท แต่ในปีหนึ่งๆ เราสามารถยืดหรัพย์สินของผู้กระทำความผิดได้
เพียงหลักพันล้านบาทเท่านั้น จากหลักคิดดังกล่าว จึงนำมาสู่แนวทางใหม่ ในการยืดหรัพย์สินของผู้กระทำความผิด
เกี่ยวกับยาเสพติดในกลุ่มผู้ถูกจับกุมและขยายผลไปยังครือข่ายการค้า โดยฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีการทำธุรกรรมที่มีเหตุอันควร สงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สำหรับวิธีการดำเนินการนั้น ได้จัดตั้งทีมสืบสวน
ขยายผล โดยใช้เครื่องมือพิคษเชื่อมโยงกันทุกคดี ให้มีการตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ที่ได้รับการผีกอบรมแล้วมาดูแล ให้มีการ
ประเมินมูลค่ายาเสพติดตามมูลค่าจริง และให้ติดตามยึดทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ ผู้กระทำผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับ
จากการค้ายาเสพติดอย่างเด็ดขาด
"ท่านนายก"ติดตามและกำชับผมตลอด ในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การใช้กฎหมายสมคบ
คิดและการยืดทรัพย์ครือข่ายยาเสพติด เพื่อใช้ในการปราบปรามได้ถึงต้นตอและตัวการ เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด และการดำเนินงานในลักษณะเน้นการสืบสวนยึดทรัพย์นั้น จะเป็นการ
ป้องกันการสูญเสีย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ต้องไปตั้งด่านสกัดจับกุมมาก เพียงเราใช้เครื่องมือสืบสวนต่อยอดจากธุรกรรมและ
เส้นทางการเงิน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน" นายสมศักดิ์ กล่าว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น