วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
พังงา // “วราวุธ ศิลปอาชา” มอบปะการังเทียมให้กับเครือข่ายชุมชน มั่นใจชุมชนคือกำลังสำคัญ พร้อมนำทีมดำน้ำสำรวจฐานเกาะตัวอ่อนปะการัง และปะการังเทียมรูปทรงโดม .
ไทเกอร์นิวส์ พังงา
ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำทีมผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมช่วยเหลือแก้ปัญหาสำคัญเร่งด่วนให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดพังงา พร้อมเป็นประธานมอบปะการังเทียมให้กับเครือข่ายชุมชน จ.พังงา เพื่อสนับสนุนงานฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล รวมทั้งได้นำปะการัง 3D Cement Printing จัดวางใต้ท้องทะเล เป็นเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล และเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำในจ.พังงา ภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเป็นประธานมอบปะการังเทียมให้กับเครือข่ายชุมชนในพื้นที่ จ.พังงา ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเล ซึ่งในวันนี้ ตนตั้งใจลงพื้นที่เขาหลัก จ.พังงา เพื่อติดตามแหล่งปะการังธรรมชาติ และจุดจัดวางปะการังเทียม ซึ่งจากรายงานของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทราบว่า จ.พังงามีพื้นที่แนวปะการังประมาณ 26,126 ไร่ สภาพแนวปะการังส่วนใหญ่ได้รับความเสียหาย ทั้งจากกิจกรรมมนุษย์ และโดยธรรมชาติ ซึ่งทาง ทช. ได้ติดตาม และฟื้นฟูมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดวางปะการังเทียม ซึ่งในพื้นที่เขาหลัก จ.พังงา นั้นได้เริ่มดำเนินการจัดวางปะการังเทียมรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งผลก็เป็นที่น่าพอใจ พบสัตว์ทะเลเข้ามาอยู่อาศัย ปะการังมีพื้นที่ยึดเกาะ และอยู่อาศัย รวมทั้ง เป็นแหล่งศึกษา เรียนรู้ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวให้กับจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจัดวางการดูแลต่อจากนั้น ก็ต้องอาศัยชุมชนในพื้นที่ นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการช่วยกันดูแลรักษา ดังนั้นการจัดงานในวันนี้ เหมือนเป็นการส่งมอบปะการังเทียมให้กับชุมชนได้มีส่วนร่วมในการดูแล ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า พี่น้องประชาชนในพื้นที่สามารถดูแลรักษาได้อย่างแน่นอน
“ปะการังเป็นสัตว์ที่มีความอ่อนไหว อ่อนแอ ต้องการสภาพแวดล้อมที่เฉพาะเหมาะสมการดูแลปะการังไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจในธรรมชาติของปะการัง ชุมชนคือกำลังเสริมที่สำคัญของธรรมชาติ ที่จะช่วยปกป้องดูแลปะการังให้คงอยู่อย่างยั่งยืน” สำหรับวันนี้ตนได้ร่วมดำน้ำกับเจ้าหน้าที่เพื่อสำรวจความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศปะการังใต้ทะเล รวมถึงสังเกตการณ์ การจัดวางฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง 3D Cement Printing จำนวน 7 ชุด และปะการังเทียมรูปทรงโดม เพื่อเป็นการส่งเสริมพื้นที่ท่องเที่ยวดำน้ำ ลดผลกระทบความเสียหายของแนวปะการังจากกิจกรรมดำน้ำ และเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของจ.พังงา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำระดับโลก อีกด้วย
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับหลายภาคส่วนในการบูรณาการการทำงาน รวมถึง การพัฒนานวัตกรรมในงานด้านการฟื้นฟูปะการัง ซึ่งที่ผ่านมา ทช. ได้ดำเนินการจัดทำและวางปะการังเทียมโดยใช้วัสดุหลากหลายรูปแบบ สำหรับครั้งนี้ ทช. ร่วมมือกับบริษัทเอสซีจี ซีเมนต์ จำกัด และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเทคโนโลยี 3D Cement Printing มาดำเนินการออกแบบ และทดลองวัสดุคอนกรีต สำหรับนำไปใช้ในงานด้านการฟื้นฟูปะการรังธรรมชาติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งต้นแบบที่มีความกลมกลืนเสมือนจริงใกล้เคียงกับธรรมชาติ จัดวางในพื้นที่เขาหลัก จ.พังงา นอกจากนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีแนวนโยบายให้กรมฯ ประสานความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีความพร้อม และมีแนวคิดในการอนุรักษ์ฟื้นฟูปะการัง ร่วมศึกษาและดำเนินงานในพื้นที่อื่น ๆ ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน สุดท้ายนี้ กรมฯ ต้องขอขอบคุณพันธมิตรทั้ง 2 องค์กร ที่ร่วมศึกษา วิจัย และสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกับกรมฯ มาอย่างดีโดยตลอด ซึ่งกรมฯ ได้วางแผนการทำงานอย่างต่อเนื่อง บนฐานความร่วมมือและการรับรู้ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรักษาทรัพยากรทางทะเลให้คงอยู่อย่างสมดุลและยั่งยืนตลอดไป
ด้านนายชนะ ภูมี Vice President – Cement and Construction Solution Business บริษัทเอสซีจี ซีเมนต์ จำกัด กล่าวถึงแนวคิดในความร่วมมือพัฒนารูปแบบวัสดุฐานลงเกาะของตัวอ่อนปะการังว่า เทคโนโลยีที่ใช้ในครั้งนี้เป็นอีกแนวทางในการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งของไทย ด้วยเทคโนโลยี 3D Cement Printing “ เอสซีจี มุ่งสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด Passion for Better Green Society” อันเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ ผ่านการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมตามแนวทาง CE – Circular Economy สำหรับครั้งนี้ ได้นำเอาเทคโนโลยีการขึ้นรูป 3D Cement Printing ร่วมกับการพัฒนาสูตรปูนซีเมนต์ขึ้นเอง ด้วยวิธีการฉีดขึ้นรูปเป็นฐานลงเกาะของตัวอ่อนปะการังธรรมชาติ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล และมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ประเทศไทยจะใช้เป็นต้นแบบในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลของไทยคืนความสมบูรณ์ให้แหล่งที่อยู่อาศัย และเพาะพันธุ์สัตว์ทะเล หรือต่อยอดแนวคิดในการพัฒนาเป็นแหล่งปะการังทดแทนสำหรับการท่องเที่ยว ลดการรบกวนปะการังธรรมชาติให้มากที่สุด นายชนะ กล่าวทิ้งท้าย .
ข่าว : การเกศ พรหมทอง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น