กาฬสินธุ์โหนกระแสมะพร้าวฟีเวอร์ปรุงข้าวหลามสูตรน้ำมะพร้าวเอาใจลูกค้า

กาฬสินธุ์โหนกระแสมะพร้าวฟีเวอร์ปรุงข้าวหลามสูตรน้ำมะพร้าวเอาใจลูกค้า



สองสามี-ภรรยา ชาวตำบลลำคลอง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าตำรับข้าวหลาม 30 ปีสูตรโบราณ พลิกวิกฤติช่วงมะพร้าวฟีเวอร์สนั่นโซเชียล ดื่มน้ำมะพร้าวสร้างเสริมสมรรถนะทางเพศ ทดลองคิดสูตรปรุงข้าวหลามรสชาติใหม่ “ข้าวหลามน้ำมะพร้าวอ่อน” เพื่อเป็นทางเลือกใหม่และเรียกลูกค้ามาอุดหนุน กระตุ้นยอดขายช่วงสถานการณ์โควิด-19
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพ ของชาวบ้านใน จ.กาฬสินธุ์ ช่วงได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด-19 พบสองสามี-ภรรยาชาวบ้านสะอาดนาทม ต.ลำคลอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีอาชีพทำข้าวหลามจำหน่าย ที่บริเวณด้านหน้าเขื่อนลำปาว มีการปรับตัวทั้งลดจำนวนการผลิต และคิดสูตรข้าวหลามใหม่ “ข้าวหลามน้ำมะพร้าวอ่อน” เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพไปได้อย่างต่อเนื่อง
โดยนายคำรณ ผากา อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 132 หมู่ 1 บ้านสะอาดนาทม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนกับนางปราณี ผากา อายุ 64 ปี ภรรยา ทำข้าวหลามมาประมาณ 30 ปี ทั้งนี้ ได้ใช้บริเวณหน้าบ้านเป็นจุดเผาข้าวหลามและตั้งเป็นร้านขายข้าวหลาม เพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวหาดดอกเกด เขื่อนลำปาว โดยใช้ไม้ไผ่พันธุ์ไม้ไผ่หนามหรือไม้ไผ่ป่าใหญ่ อายุ 1-3 ปี ซึ่งสามารถทำข้าวหลามได้ตลอดปี ไม่เลือกฤดูกาล
นายคำรณ กล่าวอีกว่า การทำข้าวหลามของตน จะทำสูตรโบราณหลายรส เช่น ข้าวเหนียวขาว ข้าวเหนียวดำ ต่อมามีการปรับปรุงรสชาติเข้ามาใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า เช่น ข้าวหลามดอกอัญชัน ข้าวหลามใบเตย ข้าวหลามทุเรียน และล่าสุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมาทำข้าวหลามเม่า ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก จำหน่ายตั้งแต่ราคาบั้งละ 20-50 บาท และ 3 บั้ง 100 บาท โดยล่าสุดทำข้าวหลามสูตรใหม่ คือข้าวหลามน้ำมะพร้าวอ่อน



ด้านนางปราณี ผากา อายุ 64 ปี ภรรยานายคำรณ กล่าวว่า การทำข้าวหลามขายจะทำเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น เพราะวันธรรมดาต้องไปเตรียมอุปกรณ์ ซึ่งแต่เดิมในภาวะปกติจะทำขายให้กับนักท่องเที่ยวประมาณวันละ 500-1,000 บั้ง แต่พอเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั้งรอบแรกในปี 2563 และรอบใหม่ถึงปี 2564 นี้ ได้ส่งผลกระทบกับบรรยากาศการจำหน่ายข้าวหลาม ทำให้ยอดขายตกหลายเท่าตัว ซึ่งขายได้เพียงวันละ 150-200 บั้งเท่านั้น เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่
นางปราณี กล่าวอีกว่า เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้และไม่ขาดทุน ในช่วงนี้จึงได้ลดจำนวนการทำข้าวหลามลงเหลือเพียงวันละ 100 กว่าบั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประกอบกับกระแสโซเชียลเกี่ยวกับดื่มน้ำมะพร้าว ช่วยสร้างเสริมสมรรถนะภาพทางเพศมาแรงมาก ตนจึงเกิดไอเดียทดลองในการปรุงข้าวหลามสูตรใหม่ คือสูตรน้ำมะพร้าวอ่อนขึ้นมา ทั้งชนิดที่เป็นข้าวหลามในกะลามะพร้าวและชนิดกระบอกไม้ไผ่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งคาดว่าข้าวหลามสูตรน้ำมะพร้าวอ่อน จะได้รับความสนใจให้กับลูกค้า เดินทางมาอุดหนุนเป็นอย่างดี
นางปราณี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนวิธีการทำข้าวหลามมะพร้าวอ่อน จะใช้มะพร้าวน้ำหอมที่มีเนื้ออ่อนพอดี ขั้นตอนแรกกะเทาะเอาน้ำมะพร้าวออก เพื่อนำน้ำมะพร้าวไปแช่ข้าวเหนียวให้อ่อนนุ่มสำหรับทำข้าวหลาม จากนั้นใช้อุปกรณ์ขูดเอาเนื้อมะพร้าวออก ซึ่งจะเหลือเพียงเนื้อมะพร้าวบางส่วนที่ติดอยู่ภายในกะลามะพร้าว ก่อนนำเนื้อมะพร้าวนั้นผสมกับน้ำกะทิ ใบเตย อัญชัน ถั่วดำ แล้วใช้ช้อนตักเข้าใส่กะลามะพร้าว ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ให้มิดชิด แล้วนำไปเผาในตู้อบประมาณ 30 นาที ซึ่งจะได้ข้าวหลามที่มีรสชาติที่หอมละมุน ติดมัน อร่อยถูกใจ คาดว่าลูกค้าที่ได้ลองลิ้มชิมรสข้าวหลามมะพร้าวอ่อนจะติดใจ และได้รับความสนใจจากลูกค้าทั่วไป ขอการันตีในคุณภาพที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำแบบใคร ส่วนประเด็นที่ว่าจะเพิ่มสมรรถนะทางเพศให้คุณผู้ชาย เหมือนที่เป็นข่าวในโซเชียลหรือไม่ ก็ต้องให้ลูกค้าพิสูจน์เอง ตนเพียงแต่คิดสูตรใหม่ เพื่อเป็นข้าวหลามทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าเท่านั้น