ไทเกอร์นิวส์ สุราษฎร์ธานี
ศูนย์ข่าวภาคใต้ตอนบน
จากกรณีพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มีบันทึกข้อความส่วนราชการ ตร. เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองสารวัตรถึงผู้บังคับหมู่ วาระประจำปี 2563 มีผลใช้บังคับพร้อมกันภายในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รองสารวัตรถึงผู้บังคับหมู่วาระประจำปี 63 ซึ่งตามกฎ ก.ตร. ต้องเสร็จสิ้นภายใน 31 มกราคม ของทุกปี แต่ปีนี้หลักปฏิบัติมีความยืดหยุ่นเนื่องจากมีหน่วยเกิดใหม่เช่น กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จึงมีกระบวนการปรับเกลี่ยกำลังไปให้ ซึ่งใช้เวลาพอสมควร ยืนยันว่าจะแล้วเสร็จทัน 16 กุมภาพันธ์ 64 นี้อย่างแน่นอน
ล่าสุด ด.ต.ชนาภัทร โจมฤทธิ์ ผบ.หมู่ ตม.สุราษฎร์ธานี ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวว่าโดนกลั่นแกล้งเพราะถูกย้ายไปลงตำแหน่งที่ กก.ตชด.44
ยะลา ทั้งที่ได้ทำเรื่องขอย้ายไปที่ ตม.ชลบุรี ในตำแหน่ง ผบ.หมู่ปราบปรามทางน้ำ เนื่องจากมีคุณสมบัติครบในตำแหน่งที่ขอไป เพราะมีใบนายทายเรือ และใบช่างเครื่องเรือในการขับเรือตรวจการณ์ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สำหรับสาเหตุของการถูกย้ายข้ามหน่วยในครั้งนี้ ด.ต.ชนาภัทร ระบุในหนังสือร้องเรียนว่าตนมีความสงสัยจึงได้ลงข้อความในไลน์กลุ่มของ ตม.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบถามเรื่องดังนี้
• เรื่องการหักเงินเปรียบเทียบปรับ 20% ของยอดเงินที่ จะได้รับ และต้องโอนคืนไป20%ของยอดที่โอนเข้ามาในบัญชีของตน
• เรื่องการเบิกเงินเปรียบเทียบปรับของ รอง ผกก.ตม.สุราษฎร์ธานี และ สว.ตม.สุราษฎร์ธานี ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดสืบของ ตม.สุราษฎร์ธานี มีทั้งหมด 4 ชุด โดยปกติหน.ชุดจะขอเบิกเงินรางวัลเปรียบเทียบปรับได้แค่หนึ่งชุดของการเปรียบเทียบปรับในแต่ละวัน แต่ชุดปฏิบัติการ 1-4 ขอเบิกเงินเปรียบเทียบปรับทั้งหมดในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปปฎิบัติหน้าที่พร้อมกันทั้ง 4 ชุด ดังนั้นจึงเป็นการเบิกเงินเปรียบเทียบปรับอันเป็นเท็จ
• เรื่องการตีตราทำวีซ่าคนต่างด้าว 3 สัญชาติจะเรียกเก็บเงินจากนายหน้าเป็นรายหัวโดยเก็บหัวละ 500 บาท นอกเหนือจากเก็บค่าธรรมเนียมอีกรายละ 1,900 บาท ถ้านายหน้าคนใดมีพาสปอร์ตมากก็จะให้นำลูกน้องมาตีวีซ่า และเขียนใบเสร็จเซ็นต์ชื่อปลอมเจ้าหน้าที่ในใบเสร็จเองเพื่อความรวดเร็ว นอกจากนั้นยังจ้างคนภายนอกมาตีวีซ่า เขียนใบเสร็จ เซ็นต์ลายมือปลอมของจนท. ในใบเสร็จค่าธรรมเนียมเอง
เมื่อลงข้อความดังกล่าวลงในไลน์กลุ่มแล้วก็โดนคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เขียนรายงานชี้แจงถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และตนได้ถูกว่ากล่าวตักเตือน อีกไม่นานตนก็ลงข้อความสอบถามเรื่องเดิมอีกในกลุ่มไลน์ตม.สุราษฎร์ธานี อีกครั้งเพราะครั้งแรกยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน แต่ก็โดนสั่งให้เขียนรายงานชี้แจงเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งผกก.ตม.สุราษฎร์ธานี ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหมือนที่ผ่านมา และตนได้ถูกทำภาคฑัณท์เนื่องจากโดนเขียนรายงานเป็นครั้งที่ 2
ด.ต.ชนาภัทรกล่าวว่าตั้งแต่ตนได้มาทำงานที่ ตม.สุราษฎร์ธานี ได้ทำหน้าที่ด้วยความซื้อสัตย์ สุจริต และที่ผ่านมายังเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นของสตช. และเป็นโค้ชมวยด้วย ตนสร้างชื่อเสียงให้สตช. มาโดยตลอด แต่เมื่อมีคำสั่งย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งที่ กก.ตชด.44 ยะลา เพราะโดนกลั่นแกล้งจากผู้มีอำนาจตอนนี้หมดกำลังใจกับการทำดีถึงขั้นคิดลาออกจากการเป็นข้าราชการตำรวจ ตนไม่มีที่พึ่งที่ไหนจึงต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรมในการถูกย้ายไปที่ กก.ตชด.44 ยะลา จึงขอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ใหม่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ต่อไป ด.ต.ชนาภัทร กล่าวอย่างหน้าละห้อย .
ข่าว : พจน์ คำจันทร์
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
สุราษฎร์ธานี // ดาบตำรวจสุราษฎร์ฯ ดับเครื่องชน..! ร้องเรียนถูกย้ายจาก ตม. เด้งไปเป็น ตชด. ที่ยะลา สาเหตุถามเรื่องผลประโยชน์ในไลน์กลุ่ม .
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น