วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ความคืบหน้า กรณีราษฎร บ้านนะโน อ.กัลยาณิวัฒนา ทำหนังสือร้องเรียนถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ามีกลุ่มบุคคลบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ ป่าสงวนแห่งชาติ

ความคืบหน้า กรณีราษฎร บ้านนะโน อ.กัลยาณิวัฒนา ทำหนังสือร้องเรียนถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ามีกลุ่มบุคคลบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ ป่าสงวนแห่งชาติ ล่าสุด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) ตรวจสอบพื้นที่มีบุกรุกพื้นที่ใหม่จริง พร้อมแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ที่ สภ.แม่แจ่มเพื่อดำเนินคดีกับผู้บุกรุกแล้วทุกราย





เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 64 นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณี ราษฎรบ้านนโน หมู่ที่ 2 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 และได้ออกตามสื่อฯต่าง ๆ หลายสำนักได้ลงไปแล้วนั้น ว่าได้มีกลุ่มบุคคล เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ ได้ทำไร่สตรอเบอร์รี่ กะหล่ำปลี และใช้สารเคมี อันมีกระทบต่อสิ่งมีชีวิต ทั้งสัตว์-คน จำนวนหลายจุด พื้นที่จำนวนหลายไร่ และมีการโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ และใช้รถแบคโฮ ไถทำถนนเพื่อเข้าไปในสวนซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ ท้องที่บ้านแม่แจ๊ะ หมู่ 13 ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ นั้น
‎นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ตนดูแลและรับผิดชอบปัญหาดังกล่าวนี้ จากนั้นตนจึงได้เชิญ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) ให้เข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นที่มาการร้องเรียน ในระหว่างวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบูรณาการตรวจสอบร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กัลยาณิวัฒนา ผลการตรวจสอบสรุปได้ ดังนี้ 1. พบแปลงพื้นที่มีการบุกรุกลักษณะเป็นการบุกรุกพื้นที่ใหม่ มีต้นไม้ล้มเป็นจำนวนมากลักษณะใหม่สด จำนวน 8 แปลง ดังนี้ จุดที่ 1.1 และ จุดที่ 1.2 เนื้อที่ 6-0-77 ไร่ : แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม แล้ว เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64 จุดที่ 1.3 เนื้อที่ 3-1-35 ไร่ : แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม แล้ว เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64 จุดที่ 1.4 เนื้อที่ 2-0-40 ไร่ : แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม แล้ว เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64 จุดที่ 1.5 เนื้อที่ 12-1-11 ไร่ : แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม แล้ว เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64จุดที่ 1.6 เนื้อที่ 12-2-87 ไร่ : แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม แล้ว เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 64 จุดที่ 1.7 เนื้อที่ 4-1-33 ไร่ : แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม แล้ว เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 64 จุดที่ 1.8 เนื้อที่ 12-0-25 ไร่ : แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม แล้ว เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 64





โดย สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) พื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบทั้งหมด 8 แปลง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่แจ่ม มีการบุกรุกพื้นที่ใหม่และมีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมออกไปจากเดิม ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และต้องดำเนินคดีตามกฎหมายป่าไม้ ทุกแปลง ทั้งนี้ได้มอบหมายให้หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่แจ่มและหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้กัลยาณิวัฒนา เข้าดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดตามจุดพิกัด 8 จุด หากพบว่ามีการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ ให้ยุติการบุกรุกพื้นที่ป่าและขอให้ราษฎรร่วมกันดูแล รักษาทรัพยาป่าไม้อีกต่อไป
ในส่วนของ การติดตามตัวผู้กระทำความผิด กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนดังกล่าวนี้ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แจ่ม ว่าจะสืบสวนสอบสวน ผู้กระทำความผิด เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น เป็หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ส่วนของฝ่ายปกครองนั้น ตนจะได้มอบหมายนายอำเภอกัลยาณิวัฒนา ให้เข้าพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตำบลแม่แดด ว่าการทำการเกษตร ทำไร่ ทำสวนเพื่อให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายบ้านเมือง ไม่ให้เกิดข้อพิพาทกันอีก ให้ปฏิบัติตามกฎหมายเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้ในไม่ช้านี้





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น