วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

กาฬสินธุ์เปลี่ยนขยะเป็นบุญลดฝุ่นละออง PM 2.5

กาฬสินธุ์เปลี่ยนขยะเป็นบุญลดฝุ่นละออง PM 2.5
สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 10 (ขอนแก่น) เปิดจุดรับบริจาคกล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วไปรีไซเคิล ในโครงการเปลี่ยนขยะเป็นบุญ "หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ)





ยามยาก" เพื่อนำไปแปรรูปเป็นหลังคาบ้านช่วยเหลือครัวเรือนยากไร้ ลดการเผาขยะที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยค่า PM 2.5 ในพื้นที่สูงกว่าเกณฑ์ 4 วันซ้อน
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ นายประดิษฐ สุดชาดา ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อมฯ นายวิชา สุวรรณามังกร ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์ฯ และเจ้าหน้าที่ ได้เปิดจุดรับบริจาคกล่องเครื่องดื่ม ถุงพลาสติก จากครู นักเรียน หลายแห่ง ที่ทยอยกันเดินทางมามอบ ในโครงการเปลี่ยนขยะเป็นบุญ "หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก"
โดยนายประดิษฐ สุดชาดา ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อมฯ กล่าวว่าโครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 10 (ขอนแก่น) เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้กล่องเครื่องดื่มที่ใช้แล้ว ให้กลายเป็นหลังคาเขียว โดยนำมาแปรรูป เพื่อสร้างคุณค่าเป็นหลังคาบ้านให้กับครัวเรือนผู้ยากไร้ ทั้งนี้ ได้มีหนังสือเชิญชวน ขอความร่วมมือกับสถานศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน ระดับอนุบาล ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อนำกล่องนมหรือพลาสติก มาบริจาคที่จุดรับบริจาค ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ก่อนรวบรวมส่งมอบให้กับสำนักงานสิ่งแวดล้อม ภาคที่ 10 (ขอนแก่น) และโครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ต่อไป

ด้านนายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การนำกล่องเครื่องดื่ม และพลาสติกมาบริจาค ในโครงการเปลี่ยนขยะเป็นบุญ "หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก" ยังเป็นการลดปัญหาขยะล้น และลดการเผาที่เป็นสาเหตุของการเกิดมลพิษ และเกิดปัญหาละอองฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เกิดปัญหาการเผาตอซังข้าวและไร่อ้อยวันละ 5-10 จุด ส่งผลให้ค่า PM 2.5 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 4 วันซ้อน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจึงได้ประชุมหารือ เพื่อรณรงค์การลดเผาทุกชนิด และการเกิดฝุ่นละอองทุกประเภท
นายอัครพงษ์กล่าวอีกว่า เพื่อให้การรณรงค์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ ที่ประชุมได้มอบหายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ เช่น สำนักงานขนส่งควบคุมฝุ่นควันที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์รถยนต์ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง ควบคุมฝุ่นละอองที่เกิดจากการก่อสร้าง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ ควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะ ตอซัง และป้องกันการเกิดไฟป่าอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ จะได้จัดกิจกรรมรณรงค์ลดการเผา และสร้างแนวกันไฟ ที่บริเวณผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564



ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันรณรงค์ลดการเผา ปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม และลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและเกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนสถานศึกษาที่สนใจร่วมโครงการเปลี่ยนขยะเป็นบุญ “หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก” ขอให้นำพลาสติกที่ล้างสะอาดและตากแห้ง ส่งจุดรับบริจาคที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ โดยสถานศึกษาที่นำมาบริจาคแล้ว เช่น โรงเรียนดอนจานวิทยาคม ต.ดอนจาน อ.ดอนจาน, โรงเรียนหนองแสงวิทยาเสริม ต.สมเด็จ อ.สมเด็จ, โรงเรียนโคกหวายราษฎร์สามัคคี ต.นาโก อ.กุฉินารายณ์ และโรงเรียนบ้านดอนสนวน ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น