วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2564

ทวงหนี้โหดใช้ 11ม.ม. ยิงขู่ก่อนชิงรถจักรยานยนต์หนี

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

ทวงหนี้โหดใช้ 11ม.ม. ยิงขู่ก่อนชิงรถจักรยานยนต์หนี





เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 มี.ค. 64 พ.ต.ต.นที จันทร์แสงศรี สารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงขู่ก่อนที่จะชิงรถ จยย.ขี่หลบหนี เหตุเกิดบ้านไม่มีเลขที่ ซอยซูรอกูเวาะห์ ม.1 ต.ปาเสมัส จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.อัสรี ต่วนเพ็ง รอง ผกก.สส.สภ.สุไหงโก-ลก และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ นายอับดุลรอฮิม บินอาแวสาแม อายุ 32 ปี เจ้าของบ้านยื่นหน้าตาแตกตื่นที่บริเวณหน้าบ้านพัก โดยมีปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 11 ม.ม.ตกอยู่ที่พื้นหน้าประตูบ้าน จำนวน 1 ปลอก และมีนายธนาธิป พยุงวัฒนา อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของนายอับดุลรอฮิม ยืนอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 11 ม.ม.เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนายธนาธิป เพื่อนของนายอับดุลรอฮิม ทราบว่า ในช่วงเวลา ประมาณ 08.30 น. ได้มีชายฉกรรจ์ จำนวน 2 คน ขับและนั่งรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนส์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ มาหาตนที่บ้านพักเลขที่ 1/408 ถ.ทรายทอง 3 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก เพื่อมาทวงหนี้จำนวนกว่า 1 หมื่นบาท ที่ตนได้ทำเรื่องกู้ยืมเงินผ่านระบบวอลเล็ทไว้กับบริษัทเงินกู้แห่งหนึ่ง โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่คิดว่าจะได้เงินมาจริง และเมื่อตนได้เงินมาก็นำไปใช้จ่ายโดยที่ไม่มีการเสียดอกเบี้ยและเงินต้น จนกระทั่งจู่ๆมีชายฉกรรจ์ 2 คน อายุประมาณ 30 ปี ขับและนั่งโดยสารรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีบรนอส์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ มาจอดหน้าบ้านพัก 1 ใน 2 ได้เดินมาหาตนเพื่อทวงเงินที่ได้กู้ยืมไว้ แต่ตนไม่มีเงินให้ชายฉกรรจ์คนดังกล่าว โดยชายฉกรรจ์คนดังกล่าวได้แสดงท่าทีข่มขู่ ด้วยการโชคอาวุธปืนพก ขนาด 11 ม.ม.ที่เหน็บไว้ที่เอวเพื่อให้ตนเห็น ซึ่งชายฉกรรจ์คนดังกล่าวทราบว่า ตนมีรถ จยย.ยี่ห้อ GPX 150 C.C. สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 1กย6895 สงขลา เพื่อที่จะยึดรถ จยย.คันดังกล่าว แต่ตนบอกว่าได้ขายให้เพื่อนไปแล้ว คือ นายอับดุลรอฮิม ชายฉกรรจ์คนดังกล่าวจึงข่มขู่ตนให้ขี่รถ จยย.นำหน้าเพื่อเดินทางไปยังบ้านเพื่อนที่ได้ซื้อรถไว้ ตนเกรงจะถูกทำร้ายจึงยอมขี่รถ จยย.นำทางไป





เมื่อถึงบ้านของนายอับดุลรอฮิม เพื่อนของตน 1 ใน 2 คนร้าย ได้ลงจากรถยนต์เก๋ง เดินไปยังรถ จยย.ที่นายอับดุลรอฮิม ได้ซื้อจากตนไปซึ่งจอดไว้หน้าประตูบ้านพัก และชายฉกรรจ์คนดังกล่าวได้พบกับนายอับดุลรอฮิม และบอกกับนายอัลดุลรอฮิม ว่าจะมายึดรถ จยย.ที่นายธนาธิป ได้กู้ยืมเงินไปโดยที่ไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้น นายอับดุลรอฮิม ทราบดังนั้น จึงปฏิเสธที่จะให้รถ จยย.ไป เนื่องจากตนไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องของเงินกู้ ชายฉกรรจ์คนดังกล่าวจึงได้ชักอาวุธปืนพก ขนาด 11 ม.ม.ออกมายิงขู่ จำนวน 1 นัด พร้อมขอกุญแจรถ จยย.คันดังกล่าวกับนายอับดุลรอฮิม นายอับดุลรอฮิม จึงจำใจหยิบกุญแจรถ จยย.ให้ชายฉกรรจ์ ก่อนที่ชายฉกรรจ์จะขี่รถ จยย.หลบหนีไป เมื่อคนร้ายข่มขู่ชิงรถ จยย.หลบหนีไปแล้ว นายอับดุลรอฮิม จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.อัสรี ต่วนเพ็ง รอง ผกก.สส.สภ.สุไหงโก-ลก เมื่อทราบเหตุ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจุดตรวจต่างๆ ในการตรวจสอบและตรวจยึดรถยนต์เก๋งและรถ จยย.ทั้ง 2 คัน แต่ผลการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบยานพาหนะทั้ง 2 คับ ขับขี่ผ่านจุดตรวจแต่อย่างใด





พ.ต.ต.นที จันทร์แสงศรีสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก จึงได้เชิญตัวนายอับดุลรอฮิม และนายธนาธิป ไปให้ปากคำเพื่อสอบสวนรายละเอียดข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในการติดตามตัวชายฉกรรจ์ทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวในเบื้องต้นทราบว่าเป็นเรื่องของคดีชิงทรัพย์ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง ที่คนร้ายได้ชิงรถ จยย.ไปใช้ก่อเหตุใดๆ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆทั้งในเขตเทศบาลและรอบนอก ในการแกะรอยคนร้ายทั้ง 2 คน ที่ขับขี่ยานพานะทั้ง 2 คัน หลบหนี ตั้งแต่จุดที่คนร้ายไปทวงหนี้ที่บ้านพักของนายธนาธิป และจุดที่คนร้ายได้ขี่รถ จยย.หลบหนี ตั้งแต่บ้านพักของนายอับดุลรอฮิม ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่จะจับกุมคนร้ายทั้ง 2 คนได้ไม่ยาก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น