วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2564

วันช้างไทย 13 มีนาคม ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริมเชียงใหม่ จัดทำบุญพิธีเปิดป้าย"ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา"

วันช้างไทย 13 มีนาคม ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริมเชียงใหม่ จัดทำบุญพิธีเปิดป้าย"ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา"







เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564 "วันช้างไทย" ปางช้างแม่สา จัดทำบุญใหญ่ เปิดป้าย “ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา” Maesa Elephant Conservation Park พิธีทำบุญ ถวายเพล พระสงฆ์จำนวน 9 รูป จัดงานวันช้างไทย และพิธีมอบเกียรติบัตรให้แก่พนักงานและควาญช้างดีเด่น



ตามที่รัฐบาลได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศให้ทุกวันที่ 13 มีนาคม เป็นวันช้างไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของช้างและได้ร่วมกันระลึกถึงช้าง สัตว์คู่บ้านคู่เมือง อีกทั้งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติไทย ปางช้างแม่สาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของช้างและได้ริเริ่มจัดงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 โดยใช้ชื่องานว่า “งานส่งเสริมสืบสานสายพันธุ์ช้างไทย” โดยมีรูปแบบการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการจัดบายศรีสู่ขวัญ และเลี้ยงสะโตกอาหารช้าง รวมถึงมีกิจกรรมที่มีประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างช้างกับคนมาโดยตลอด โดยได้จัดงานวันช้างไทยอย่างต่อเนื่องมาทุกปี ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 21 ของการจัดงาน และมีตำนานมาอย่างยาวนานคู่กับจังหวัดเชียงใหม่ โดยปางช้างแม่สาได้ก่อตั้งโดยคุณชูชาติ กัลมาพิจิตร ในปี พ.ศ. 2519 ในปีนี้จึงเป็นปีที่ปางช้างแม่สาจะครบ 45 ปีของการเป็นปางช้างแม่สา ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งเลี้ยงช้างขนาดใหญ่ของประเทศไทย มีจำนวนช้างเลี้ยงรวมทั้งสิ้น 73 เชือก ทั้งเพศผู้ เพศเมีย หลากหลายวัย โดยช้างเหล่านี้อาศัยอยู่ที่ปางช้างแม่สามาอย่างยาวนาน กลายเป็นครอบครัวใหญ่ และกว่า 40 ปีที่ปางช้างแม่สาได้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ได้ก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล มีผู้ประกอบการที่มีความเกี่ยวข้องกับปางช้างแม่สามากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับทางด้านการบริหารจัดการปางช้าง ปางช้างแม่สาเคยได้รับมาตรฐานปางช้างจากทั้งกรมปศุสัตว์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถือเป็นเครื่องหมายยืนยันได้ว่าเรามีความเป็นมาตรฐานในทุกๆด้าน และเป็นแหล่งเลี้ยงช้างที่สมบูรณ์ มีบุคลากรทุกแผนกที่จำเป็นต่อการเลี้ยงช้างอย่างครบถ้วน เช่น แผนกควาญช้าง แผนกพืชอาหารช้าง แผนกรักษาช้าง เรามีสัตวแพทย์ จำนวน 3 คน รวมถึงมีคลีนิครักษาช้าง มียา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่างๆทั้งแผนโบราณและแผนปัจจุบัน เราเลี้ยงช้างด้วยความรักและเอาใจใส่มาตลอด 40 กว่าปี จึงทำให้เรามีประสบการณ์ กลายมาเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องช้างและเราต้องการแบ่งปันสิ่งต่างๆให้กับสังคมไทย
นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา เปิดเผยว่า วันช้างไทยในปีนี้จึงเป็นปีที่มีความพิเศษอย่างยิ่ง เนื่องจากเราได้รับเกียรติจากท่านนายอำเภอแม่ริม ท่านสื่อมวลชน รวมถึงแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ได้ร่วมกันเปิดป้าย”ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา” หรือ Maesa Elephant Conservation Park อันเป็นการเริ่มต้นที่จะพัฒนาปางช้างแม่สาให้ก้าวจากการเป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวธรรมดาขึ้นเป็นศูนย์กลางของการเลี้ยงดูช้างเพื่อการอนุรักษ์ ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่บริหารงานโดยภาคเอกชน และมูลนิธิอนุรักษ์ช้างไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อคืนปางช้างแม่สาให้เป็นของประชาชนคนไทยทุกคน สามารถเข้ามาชมช้างได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดไป สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ที่คนกับช้างมาพบกันได้ง่ายขึ้น เพื่อเริ่มต้นผูกสัมพันธ์ มีความรักและความเมตตาต่อกัน อันจะนำไปสู่ความสำเร็จในการอนุรักษ์ช้างไทย และด้วยการสนับสนุนของท่านทั้งหลาย ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา จะประกอบไปด้วย พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาลช้าง วิทยาลัยควาญช้าง และเธียร์เตอร์ หรือโรงฉายภาพยนตร์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งจะต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล เมื่อสำเร็จแล้ว ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา หรือ Maesa Elephant Conservation Park จะกลายเป็นไฮไลต์และจุดเช็คอินที่ไม่เหมือนใครของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาปางช้างแม่สาได้ยกเลิกการแสดงช้าง ยกเลิกการนั่งช้างบนแหย่งช้าง หันมาเริ่มต้นปลดโซ่หรือพันธนาการช้าง และได้ต่อสู้กับวิกฤตการณ์โควิด-19 มาถึง 2 รอบ เพื่อรักษาปางช้างแม่สาให้คงไว้ พวกเราจึงหวังว่าการต่อสู้ของทีมงานปางช้างแม่สาจะทำให้เราได้มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการช้างไทย เป็น New Normal อย่างแท้จริง โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านตลอดไป
สำหรับปางช้างแม่สาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียงของอำเภอแม่ริม และจังหวัดเชียงใหม่ ที่ผ่านมาได้มีนักเที่ยวเดินทางมาเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถือว่าเป็นไฮไลต์ของการมาท่องเที่ยวบนเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง ด้วยปางช้างแม่สา มีจำนวนช้างมากถึงกว่า 70 เชือกและมีระบบการเลี้ยงดูช้างที่เป็นมาตรฐาน จึงทำให้ปางช้างอยู่ยาวนานมาได้ถึงปีที่ 45ในปีนี้
การเปิดป้ายศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา หรือ Maesa Elephant Conservation Park ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของภาคเอกชนที่มีความมุ่งมั่นจะพัฒนาปางช้างขึ้นสู่ศูนย์กลางของการเรียนรู้และอนุรักษ์ช้างไทยอย่างยั่งยืน โดยได้จัดให้มีการเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาใช้เป็นสถานที่พบปะกับช้าง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมช้างตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2563 และทราบว่าจะเปิดฟรีตลอดไป



นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้เราเปิดศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สาไปก่อน เพื่อที่เราจะได้มีเหตุผลในการหารายได้มาสร้างสิ่งต่างๆให้เป็นศูนย์ฯจริงๆ ซึ่งจะต้องใช้เงินและเวลาอีกมาก ดังนั้นเราจะยังไม่เปลี่ยนแปลงในตอนนี้ แค่เปิดศูนย์ฯในแม่สา และต่อไปก็เปิดที่ทำการศูนย์ฯ และดำเนินการหาเงินมาสร้าง พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาลช้างและอื่นๆ จนวันหนึ่งจะกลายเป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา โดยเริ่มต้นนับ 1 ในวันที่ 13 มีนาคม ที่จะเปิดป้ายศูนย์ฯ อธิบายความแบบนี้ชัดเจนดีไหม สำหรับคนที่ต้องแตกความคิด ต่อยอด

"วันช้างไทยเต็มที่แล้ว สำหรับตัวพี่ คิดว่าปางช้างแม่สาไม่เหมือนใคร เพราะเรามีช้างเป็นของเราเองมาตั้งนานแล้ว ช้างจึงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว ช้างไม่ใช่เครื่องมือในการทำมาหากินอีกต่อไป ปีนี้ปางช้างแม่สาจะพัฒนาตนเองขึ้นสู่ระดับศูนย์อนุรักษ์ช้าง เราจะเริ่มออกเดินก้าวที่ 1 และหวังว่าจะมีก้าวต่อไปด้วยการสนับสนุนของคนเชียงใหม่ คนไทยทั้งประเทศและคนทั่วโลก เพราะเราจะมอบคืนปางช้างแม่สาให้สังคม โดยเราจะรับเลี้ยงช้างให้ หลังจากผ่านวิกฤตการณ์โควิด-19 มาได้ถึงสองรอบแล้ว แนวความคิดและทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป ช้างแม่สาจะไม่ทำงานอีก แต่จะคอยต้อนรับทุกท่านอยู่ที่ “ศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา หรือ Maesa Elephant Conservation Park”.



ทรงวุฒิ ทับทอง
Cr.นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น