วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2564

การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2564 ในพื้นที่ภาคเหนือ

การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2564 ในพื้นที่ภาคเหนือ



วันที่ 25 มีนาคม 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 126 ณ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก นายแพทย์ วิโรจน์ ชนม์สูงเนิน รองโฆษก กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย พันโท วรปรัชญ์ กาศสกุล และ พันโท หญิง บุณฑริกา ฑีฆวาณิช ผู้ช่วยโฆษกฯ เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้



กองทัพบก จะทำการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 1 – 20 เมษายน 2564 (เว้นวันที่ 6 และ 12 – 15 เมษายน 2564) จึงขอให้ชายสัญชาติไทย เกิด พ.ศ. 2543 ซึ่งมีอายุครบ 21 ปี และที่เกิด พ.ศ. 2535 ถึง พ.ศ. 2542 ซึ่งมีอายุครบ 22 ปี ถึง 29 ปี ที่ยัง ไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือกทหาร หรือผลการตรวจเลือกยังไม่แล้วเสร็จทุกกรณี ไปเข้ารับการตรวจเลือกทหาร ตามวัน เวลา และสถานที่ ที่กำหนดในหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35) รายละเอียดตามภาพ

เพื่อเป็นการป้องกันลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 จึงขอความร่วมมือผู้ปกครองและญาติของทหารกองเกินที่ไม่มีความจำเป็น ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ดำเนินการ ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ ทั้งนี้เพื่อลดความคับคั่งและการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยขอให้ทหารกองเกินที่จะเข้ารับการตรวจเลือกฯ ให้สวมหน้ากากอนามัยมาเข้ารับการตรวจเลือกฯ ด้วยทุกคน



กองทัพภาคที่ 3 หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทหารกองเกินที่อยู่ในกำหนดเรียกเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ทุกคนจะสำนึกถึงหน้าที่อันสำคัญยิ่งของลูกผู้ชายไทย ในอันที่จะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร โดยไปแสดงตนเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยพร้อมเพรียงกันทุกคน และขอขอบคุณผู้ที่ร้องขอเข้ารับราชการทหารกองประจำการทุกคนที่ให้ความไว้วางใจต่อกองทัพ เป็นผู้เสียสละในอันที่จะเข้ารับการฝึกฝนให้มีระเบียบ วินัย ทุ่มเทแรงกายและแรงใจ ในการช่วยเหลือสังคม รวมทั้งเป็นกำลังที่สำคัญของชาติไทยสืบไป.

ทรงวุฒิ ทับทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น