วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2564

ลำปางชูโมเดล อ่างเก็บน้ำแม่จอก โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แก้ปัญหาภัยแล้งและหมอกควัน

ลำปางชูโมเดล อ่างเก็บน้ำแม่จอก โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แก้ปัญหาภัยแล้งและหมอกควัน





จากปัจจุบันที่ประเทศไทยโดยเฉพาะในเขตภาคเหนือตอนบนที่ประสบปัญหาหมอกควันเป็นประจำทุกปีซึ่งอาจจะเกิดจากการเผาป่า ทั้งจากการล่าสัตว์ แผ้วถางแล้วเผาเพื่อทำการเกษตร หรือเกิดจากการเสียดสีของต้นไม้ในธรรมชาติ จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามหากป่าไม้มีความชุ่มชื้นการลุกลามก็คงไม่เกิด วันนี้ผืนป่าในหลายพื้นที่แห้งแล้งเพราะไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้ใหญ่ถูกทำลายไปมาก ฝนตกลงมาแต่ละครั้งก็ไม่มีการดูดซับน้ำไว้ ก่อเกิดปัญหาน้ำท่วมอีก พอถึงฤดูแล้งก็ไม่มีน้ำเก็บกักไว้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำ และน้ำบาดาลก็แห้งขอดเช่นกัน ระบบนิเวศน์นี้หากไม่ได้รับการอนุรักษ์หรือแก้ไขด้วยการสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึงประโยชน์ของสาธารณะเป็นสำคัญ ปัญหาเหล่านี้ก็จะวนเวียนซ้ำซากไม่จบไม่สิ้นสักที
ชุมชนบ้านดงหนองจอก หมู่ที่ 9 ตำบลเสริมซ้าย อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่ประสบปัญหาเหล่านี้แบบซ้ำซาก ทำให้พี่น้องชาวนาขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตรทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ผืนป่าแห้งแล้งไม่สามารถไปหาพืชผัก เห็ดป่าได้ตามฤดูกาล เกิดไฟป่าทุกปีสร้างปัญหาหมอกควัน และมลภาวะเป็นพิษ



นายวิชาญ ทาอาสา อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านดงหนองจอก กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้เข้ามาเป็นผู้นำชุมชนเมื่อปี พ.ศ.2552 จึงได้นำปัญหาความเดือดร้อนเรื่องการขาดแคลนน้ำดังกล่าวทูลเกล้าถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยขอพระราชทานอ่างเก็บน้ำแม่จอก ซึ่งทุกปีห้วยแม่จอกซึ่งเป็นสายน้ำที่มาจากผืนป่าแม่จอกจะเกิดน้ำหลากที่ไหลผ่านหมู่บ้านดงหนองจอกน้ำจะท่วมทุกปีในฤดูฝน และไม่มีการจัดเก็บน้ำเหล่านี้ไว้ปล่อยไหลลงสู่ที่ลุ่มโดยเปล่าประโยชน์ทำให้ฤดูแล้งขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ต้องไปขนน้ำจากต่างหมู่บ้านมาใช้ดื่มใช้อาบ เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ให้ความใส่ใจและชาวบ้านทั่วไปก็ไม่รู้จะนำเรื่องดังกล่าวไปขอความอนุเคราะห์ให้หน่วยงานไหนแก้ปัญหาให้ “หลังจากที่กระผมได้ถวายฎีกาในหลวง ร.9 อีกไม่นานทางสำนักพระราชวังก็ได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านได้ทรงพิจารณาในจดหมายฎีกาที่ทูลเกล้าถวายมาแล้วและมีพระเมตตารับโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำแม่จอกไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดสร้างให้แล้วเสร็จโดยมีกรมชลประทานเป็นหน่วยงานที่สนองพระเมตตาในครั้งนี้ ซึ่งได้มีการสำรวจและเสนองบประมาณ และจัดสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2558 วันนี้อ่างเก็บน้ำแม่จอกมีน้ำไว้ใช้ประโยชน์ประมาณปีละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรยังประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนหมู่ที่ 9 บ้านดงหนองจาก และหมู่ที่ 2 บ้านสบแม่ทำบางส่วน” นายวิชาญ ยังกล่าวเสริมว่าหลังจากที่สร้างอ่างเก็บน้ำเสร็จแต่ยังไม่มีระบบส่งน้ำซึ่งถ้าทำวิธีเดิมที่มีลำเหมืองก็จะเปลืองพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน จึงได้มีการของบประมาณจากกรมชลประทานอีก 16 ล้านบาทเพื่อนำมาสร้างระบบส่งน้ำด้วยท่อพีวีซี ซึ่งปัจจุบันได้ประโยชน์มากเพราะน้ำสูญเสียน้อยและสามารถควบคุมการปิดเปิดสะดวกและไม่เกิดปัญหาแย่งน้ำกันของชาวบ้าน และที่สำคัญป่าบริเวณต้นน้ำมีความชุ่มชื้น ไม่ติดไฟง่าย หากมีคนเผาป่าเพื่อทำการเกษตรหรือเกิดไฟไหม้ป่าโดยธรรมชาติก็จะไม่ลุกลาม และที่สำคัญทำให้ชาวบ้านมีใจรักและหวงแหนและร่วมกันอนุรักษ์ป่ามากขึ้นเพราะป่าคือแหล่งเก็บกักน้ำ ทำให้เกิดฝนตกตามฤดูกาลและเป็นแหล่งอาหารด้วย



นายใจ ใจยะธิ ชาวบ้านบ้านดงหนองจอก กล่าวว่า “พี่น้องบ้านดงหนองจอกทุกคนซาบซึ้งในน้ำพระทัยจากในหลวงอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะถ้าไม่มีในหลวง วันนี้พี่น้องบ้านดงหนองจอกก็ไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ โดยน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่จอกส่วนหนึ่งเอามาทำประปาหมู่บ้าน นอกจากนี้ในลำห้วยต่าง ๆ มีน้ำไหลตลอดทำให้ต้นไม้โดยรอบมีความชุ่มชื้น เขียวขจีตลอดทั้งปีลดเชื้อเพลิงในการเกิดไฟป่าลงได้ ไม่มีไฟป่าก็ไม่มีหมอกควัน”
นายศรีมูล สารอินทร์ ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้านดงหนองจอก กล่าวเสริมว่า ในอดีตเมื่อป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์ แม่น้ำต่าง ๆ มีน้ำไหลเป็นปกติทั้งปี ชาวบ้านหาบน้ำจากลำห้วยมาใช้ดื่มใช้อาบ และไม่ค่อยมีไฟป่า หรือถ้าจะมีก็เฉพาะจุดที่แห้งแล้งบนสันดอย(ไหล่เขา) แต่ปัจจุบันป่าถูกทำลายทำให้ลำห้วยแห้งขอด ไม่มีต้นไม้ดูดซับน้ำไว้ เกิดเพลิงไหม้ลุกลาม แม้แต่ในลำห้วย ต้นไผ่ก็ไม่เหลือ แต่หลังจากที่มีอ่างเก็บน้ำแม่จอก ลำห้วยแม่จอกก็มีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดทั้งปี และที่สำคัญผืนป่าที่อยู่เหนืออ่างเก็บน้ำตอนนี้ในฤดูแล้งก็ยังมีความเขียวชะอุ่มเพราะมีน้ำในอ่างไว้คอยหล่อเลี้ยง เวลามีไฟป่าก็ไม่มีการลุกลามเพราะป่ายังชุ่มชื้นและสามารถลดปัญหาหมอกควันได้ ส่วนแปลงนาต่าง ๆ ในฤดูแล้งชาวบ้านสามารถปลูกถั่วลิสง ปลูกกระเทียม หอมแดง และมีน้ำรดต้นลำไย ต้นมะม่วงในสวนได้ และช่วยกันนำเศษพืชไร่เหล่านี้มากองหมักรวมกันเป็นปุ๋ยหรือใช้วิถีไถกลบเพราะมีน้ำแช่ไว้ทำให้ย่อยสลายง่าย
“วันนี้ชาวบ้านสามารถหาปูหาปลาตามหนอง คลอง บึงได้ รวมถึงเก็บพืชผักที่มีตามลำห้วยมาประกอบอาหารได้เช่นกัน ลดรายจ่ายในครัวเรือนและที่สำคัญปลอดภัยจากสารเคมีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้อากาศก็ปลอดโปร่งไม่มีหมอกควันเหมือนเมื่อก่อนเพราะไฟไหม้ป่าลดลงค่ะ” นางจันดี วงศ์วาน ซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านดงหนองจอกที่หาเช้ากินค่ำได้กล่าวปิดท้าย
ด้วยน้ำพระทัยจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และพระเมตตารับอ่างเก็บน้ำแม่จอกไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทำให้ปัญหาความเดือนร้อนเรื่องขาดแคลนน้ำของพี่น้องประชาชนบ้านดงหนองจอกได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน และยังสามารถช่วยลดปัญหาหมอกควันได้อีกทางด้วย ดังนั้นแนวทางการสร้างอ่างเก็บน้ำเล็ก ๆ ไว้บนดอยสูง เพื่อใช้ปล่อยรถต้นไม้ในฤดูแล้งก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในแถบภาคเหนือได้เพราะป่าที่ชุ่มชื้นทำให้ติดไฟยาก และไม่เกิดการลุกลามในวงกว้างที่สำคัญยังเป็นแหล่งอาหารให้ทั้งคนและสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน.





ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น