วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2564

ณ ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ (ตสร.)

วันที่ 29 มีนาคม 2564 เวลา 09.15 นาฬิกา ณ ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ (ตสร.)





นำโดย พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ และคณะ เข้าพบและประชุมหารือข้อราชการร่วมกับพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ในฐานะภาคีหลักในการขับเคลื่อนภารกิจแผนการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ เข้าร่วมรับฟังในครั้งนี้ด้วย
.
พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ในฐานประธานคณะกรรมาธิการ ตสร. กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 270 บัญญัติให้วุฒิสภามีหน้าที่และอำนาจในการติดตาม เสนอแนะ และการเร่งรัดการปฏิรูปประเทศให้บรรลุเป้าหมาย รวมถึงการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ที่ประชุมวุฒิสภาจึงได้มีมติตั้ง “คณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศและการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ” เพื่อเป็นกลไกในการทำหน้าที่ดังกล่าวแทนองค์กรวุฒิสภา แล้วรายงานต่อที่ประชุมวุฒิสภาทราบต่อไป โดยได้กำหนดรูปแบบและเครื่องมือในการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น การติดตามผลการดำเนินงานของส่วนราชการในเชิงพื้นที่ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่จะเน้นเรื่องแผนปฏิบัติราชการ โครงการ แผนงานที่สอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ การติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณของจังหวัด กลุ่มจังหวัด และองค์กรปกครองสวนท้องถิ่น การติดตามผลลัพธ์หรือประโยชน์ที่หน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ได้รับในวงกว้าง เป็นต้น



.
สำหรับการหารือข้อราชการร่วมกับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจ ผลการดำเนินการ และผลสัมฤทธิ์ของกระทรวงมหาดไทยในหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะกิจกรรมปฏิรูปที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ (Big Rock) ของกระทรวงมหาดไทยตามแผนปฏิรูปประเทศ เช่น ด้านความมั่นคงที่ต้องสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชน ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันที่ต้องวางจัดทำผังเมืองควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยว ด้านพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ในการเสริมสร้างและพัฒนาระบบการเรียนรู้แก่บุคลากรทางการศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และจัดที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนที่ยากจน ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ ที่จะต้องพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารราชการและการบริการประชาชน เป็นต้น
.
ในการนี้ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ฝากให้ผู้บริหารของกระทรวงไปสู่หน่วยงานภูมิภาค จังหวัด อำเภอ โดยการสร้างการรับรู้ร่วมกันระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน ทุกระดับ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องรับรู้เรื่องงบประมาณในภาพรวม และทุกกระทรวง รวมถึงหน่วยงานระดับพื้นที่ต้องมีกลยุทธ์ จัดทำแผนดำเนินโครงการสะท้อนประเด็นเรื่องปฏิรูป ให้มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนปฏิบัติงานทุกระดับ เพื่อให้การดำเนินการปฏิรูปมีความชัดเจนเป็นรูปธรรม





ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น