กาฬสินธุ์สอบปากคำนักเรียนกลุ่มน้องปอนด์ร่วมฐานหนีสงครามค่ายลูกเสือ
พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับทีมสหวิชาชีพสอบปากคำนักเรียนกลุ่มน้องปอนด์ที่ร่วมกิจกรรมฐานหนีสงคราม คลี่คลายเหตุการณ์นักเรียนม.3 จมน้ำเสียชีวิตในค่ายลูกเสือ ขณะที่ผู้การฯกาฬสินธุ์คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 มีนาคม 2564 ที่สำนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รองผกก.(สอบสวน)สภ.ห้วยเม็ก มอบหมายให้พนักงานสอบสวน พาตัวกลุ่มเด็กนักเรียนชุดแรกจำนวน 6 คน ซึ่งอยู่ในกลุ่มกับน้องปอนด์ที่ร่วมกิจกรรมฐานหนีสงครามค่ายลูกเสือของโรงเรียนจัดขึ้น ก่อนจมน้ำเสียชีวิตมาสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ โดยมีผู้ปกครองเข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย ซึ่งการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน และเบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องรอสอบปากคำให้ครบทุกคนเสียก่อน
ด้าน พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับชันสูตรศพร่วมกับแพทย์ และเก็บหลักฐานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดได้สั่งการให้สภ.ห้วยเม็ก ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพิ่ม เพื่อร่วมกันสอบปากคำและทำสำนวนในคดีนี้รวม 4 คน เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องกับคดีจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่จะต้องสอบร่วมกับทีมสหวิชาชีพมีจำนวนกว่า 14 คน คณะครู ผู้บริหาร 16 คน และผู้ปกครอง ชาวบ้าน และพยานแวดล้อมอีก 5-6 คน รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 35 คน
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวต่อว่า วันนี้พนักงานสอบสวนสภ.ห้วยเม็กได้สอบปากคำเด็กนักเรียนที่อยู่ในกลุ่มและร่วมกันกิจกรรมเข้าฐานพร้อมกันกับผู้เสียชีวิต เบื้องต้นชุดแรกจำนวน 6 คน โดยมีทีมสหวิชาชีพและผู้ปกครองร่วมรับฟัง และกำชับให้พนักงานสอบสวนเรียกคณะครูมาสอบปากคำไปในคราวเดียวกันที่โรงพัก ซึ่งที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุเท่าที่พูดคุยเบื้องต้นกับทางคณะครูที่เกี่ยวข้องก็ให้ความร่วมมือดีและยินดีที่จะให้ปากคำ แต่เนื่องจากยังกลัวเรื่องความปลอดภัย และเลี่ยงการประเผชิญหน้ากับญาติๆของผู้เสียชีวิตในช่วงแรกๆ จึงขอเลื่อนการให้ปากคำกับตำรวจ แต่ขณะนี้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการเรียกมาสอบปากคำแล้ว ล่าสุดทราบว่าได้สอบปากคำครูประจำฐานบัวตูมบัวบาน 2 คน ซึ่งเป็นฐานที่อยู่ติดกับฐานหนีสงครามแล้ว ส่วนที่เหลือโดยเฉพาะครูประจำฐานหนีสงคราม และผู้อำนวยการอยู่ระหว่างการเรียกมาสอบ แต่หากเรียกแล้วไม่มา พนักงานสอบสวนจะต้องออกหมายเรียกให้มาสอบปากคำต่อไป
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า สำหรับคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบเหตุการณ์นี้จะเข้าข่ายข้อหาประมาทหรือไม่นั้น จะต้องรอดูพยานหลักฐานเป็นหลัก โดยเฉพาะการพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเด็กจมน้ำเสียชีวิตระหว่างทำกิจกรรมหรือหลังทำกิจกรรมเสร็จแล้ว แต่หากปรากฏชัดแจ้งว่าเป็นการกระทำผิดของผู้ใดก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่หากตรวจสอบแล้วไม่พบก็จะไม่ได้แจ้งข้อหา ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และให้รอบคอบ เพราะคดีค่อนข้างละเอียดอ่อน เนื่องจากมีเด็กนักเรียนและคณะครูเกี่ยวข้องหลายคน โดยจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าคดีจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าวันนี้ พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รอง ผกก.สภ.ห้วยเม็ก ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดี ได้เรียกคณะครูที่เกี่ยวข้อง 3 คน เป็นครูคุมฐานใกล้เคียง ภารโรง และผู้อำนวยการโรงเรียนมาสอบปากที่โรงพัก โดยได้นัดสอบในช่วงบ่ายวันนี้ แต่หากประสานไปแล้วไม่มีใครมา พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้มาสอบปากคำ ส่วนครูคุมฐานหนีสงคราม 2 คนจะเรียกมาสอบปากในลำดับต่อไป
***เบลอหน้าเด็กและผู้ปกครองด้วยนะครับ***เสียงสัมภาษณ์ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์
วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2564
กาฬสินธุ์สอบปากคำนักเรียนกลุ่มน้องปอนด์ร่วมฐานหนีสงครามค่ายลูกเสือ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น