วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ผู้ชุมนุมม็อบ 2 พฤษภา 2 คน ไม่ได้ประกันตัว ศาลให้เหตุผลเกรงจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัว

ผู้ชุมนุมม็อบ 2 พฤษภา 2 คน ไม่ได้ประกันตัว ศาลให้เหตุผลเกรงจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัว



วันนี้ (3 พ.ค.64) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ด่วน! ศาลไม่ให้ประกัน "ร่อซีกัน-หทัยรัตน์" 2 ผตห.คดี #ม็อบ2พฤษภา ระบุพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีประกอบข้อขัดค้านพนักงานสอบสวน เห็นว่าหากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองไปมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
.
พนักงานสอบสวน สน.พลพหลโยธิน ยื่นคำร้องฝากขังผ่านระบบจอภาพ นายร่อซีกีน นิยมเดชา เเละ น.ส.หทัยรัตน์ แก้วสีคราม ทั้งคู่อายุ 20 ปี ความผิดฐาน ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังป ระทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธโดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป, ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ, เมื่อเจ้าพนักงานส่งให้ผู้มั่วสุมเพื่อกระทำผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไป แต่ผู้กระทำไม่เลิก, ร่วมกันทำให้เสียหายทำลายทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย, ร่วมกันมั่วสุม หรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดเกินยี่สิบคนในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหากับโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า เมื่อเช้าวันเดียวกัน เวลา 07.30 น.
.
พฤษภาคม เวลาประมาณ 16.55 น.ได้มีกลุ่มมวลชนมารวมตัวกันประมาณ 300 คน เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองที่บริเวณหน้าศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ตามที่ได้มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ“ เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” เชิญชวนให้ประชาชนมาเข้าร่วมทำกิจกรรมดังกล่าว

ซึ่งแม้ว่ามวลชนที่เข้ามาร่วมกิจกรรมดังกล่าวส่วนใหญ่จะได้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า แต่ก็ไม่ได้มีการเว้นระยะที่ห่างกันเกิน 1 เมตรตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่อ (โควิด-19) แต่อย่างใด โดยการทำกิจกรรมดังกล่าวมีการรวมของกลุ่มบุคคลที่มีความแออัดเกิน 20 คนในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อ ตามความใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกอบ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการประกาศยุติการจัดกิจกรรมและให้มวลแยกย้ายเดินทางออกจากพื้นที่ แต่ปรากฏว่าได้มีมวลชนบางส่วนยังคงรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณหน้าศาลอาญา

จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธินได้ประกาศแจ้งให้มวลชนดังกล่าวยุติกิจกรรมและแยกย้ายเดินทางออกจากพื้นที่โดยหากยังไม่ปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการเข้าตรวจสอบต่อมาได้มีมวลชนบางส่วนได้ข้ามถนนไปยังบริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 32 ซึ่งอยู่บริเวณตรงข้ามศาลอาญาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังชุดควบคุมฝูงชนเข้าไปในพื้นที่การจัดกิจกรรมและดำเนินการขอคืนพื้นที่ แต่กลุ่มมวลชนที่รวมตัวกันบริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 32 ได้ขว้างปาสิ่งของและวัตถุระเบิด (ระเบิดปิงปอง) เข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเป็นเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจากพลุ หรือวัตถุระเบิดที่กลุ่มมวลชนปาใส่จำนวนหลายนายจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจึงได้นำกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์จนกลุ่มมวลชนบริเวณดังกล่าวถอยร่นเข้าไปภายในซอยรัชดาฯ 32 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมชุดควบคุมฝูงชนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาจึงได้เข้าไปดูแลพื้นที่ภายในซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19 บริเวณร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19 ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อกับซอยรัชดาภิเษก 32 ปรากฏว่าเมื่อเดินทางไปถึงได้พบกับกลุ่มมวลชนที่รวมกลุ่มกันที่บริเวณดังกล่าวประมาณ 30 คนเมื่อกลุ่มมวลชนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขว้างปาสิ่งของและวัตถุระเบิดอีกทั้งได้นำไม้เข้ามาทุบทำลายรถยนต์และรถตู้ที่นำกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเข้ามาในพื้นที่จนได้รับความเสียหาย



เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพร้อมกับพวกได้ลงมาจากรถยนต์และสามารถตั้งรูปขบวนได้ จึงได้เข้าทำการกดดันให้กลุ่มมวลชนถอยร่นไป แต่ปรากฏว่ากลุ่มมวลชนบางส่วนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์อ้อมมาที่บริเวณด้านหลังของขบวนและได้เข้าทุบทำลายรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งขบวนเข้ากดดันให้ล่าถอยและติดตามจับกุมอีกครั้งจนมาถึงบริเวณทางขึ้นสะพานข้ามคลองลาดพร้าวภายในซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบนายร่อซีกัน น.ส.หทัยรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 1, 2 อยู่ที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจำได้ว่าบุคคลทั้งสองคนอยู่ในกลุ่มมวลชนที่เข้ามาทุบทำลายและขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์และน่าเชื่อว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับมวลชนที่รวมตัวกันที่บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 32 ที่ได้ขว้างปาวัตถุระเบิดหรือพลุเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าควบคุมสถานการณ์จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายนายและอยู่ในกลุ่มมวลชนที่เข้าร่วมการจัดกิจกรรมบริเวณหน้าศาลอาญาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งจากตรวจสอบพบว่ามีรถยนต์5คันที่ได้รับความเสียหายจากการถูกกลุ่มมวลชนขว้างปาสิ่งของและเข้าทุบทำลาย
.
เหตุเกิดที่บริเวณทางขึ้นสะพานข้ามคลองลาดพร้าวภายในซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม จตุจักร กทม. ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาการกระทำของผู้ต้องหาทั้งสองเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 138 วรรคหนึ่ง, วรรคสอง, 140 วรรคหนึ่ง, 295 ประกอบมาตรา 289(2), 215 วรรคหนึ่ง, มาตรา 216 และตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ข้อกำหนดที่ออกตามความมาตรา 9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 22 ข้อ 3 ประกาศกรุงเทพมหานครเรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 25) และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ
.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ยื่นคำร้องขอให้ศาลตรวจสอบการจับกุม 1 ในเยาวชนที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มรีเดม ศาลได้ทำการไต่สวนตามที่พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ผู้ร้องขอแล้ว มีคำสั่งว่าให้ออกหมายควบคุมเว้นแต่มีประกัน ต่อมาผู้ปกครอง ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยให้ทำสัญญาประกัน วางหลักประกันจำนวน 10,000 บาท
.
สำหรับ "คุณภัทร คะชะนา" 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมใน ม็อบ 2 พฤษภา ถูก ตร.สน.พหลโยธินแจ้งข้อหา พรก.ฉุกเฉินฯ โดยเจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะให้การเป็นหนังสือภายในวันที่ 21 พค. 64 ก่อนได้รับการประกันตัวด้วยวงเงิน 10,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และนัดอีกครั้งในวันที่ 7 พค. 64

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของคุณ อ่านเพิ่มเติม