วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ผู้ว่าร้อยเอ็ดประกาศเร่งรัดการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคและปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19)(ฉบับที่ 31)

ผู้ว่าร้อยเอ็ดประกาศเร่งรัดการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคและปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19)(ฉบับที่ 31)



/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/0817082129-ข่าว

ตามที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563
และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นระยะอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่
31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีประกาศมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19)
ตามประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด จนถึง (ฉบับที่ 30) ลงวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2564 ไปแล้ว
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน
ยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ในหลายพื้นที่ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19)
ของจังหวัดร้อยเอ็ดอย่างเหมาะสมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 มาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 23) ลงวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ดตามมติที่ประชุมครั้งที่27/2564 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม
พ.ศ. 2564 จึงกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ดังต่อไปนี้
1. มาตรการเกี่ยวกับการเดินทางเข้าออกพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
1.1 การเดินทางออกจากพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด งดหรือชะลอการเดินทางในช่วงเวลานี้โดยไม่มีเหตุจําเป็น
โดยเฉพาะให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามประกาศของศูนย์บริหาร
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่พื้นที่กรุงเทพมหานคร
จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ
1.2 การเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
หากประชาชนที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามข้อ 1.1 เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือพำนักในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อถึงพื้นที่ปลายทาง หมู่บ้าน ชุมชน หรือสถานที่อื่นใด จะต้อง
รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ภายใน 24 ชั่วโมง และต้องปฏิบัติตัวตาม
คำแนะนำของพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
2.การใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภท ให้สามารถใช้อาคารสถานที่ เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ได้ตามความเหมาะสมและความพร้อม โดยให้ดำเนินการตามคำแนะนำของทางราชการและมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แล้วแต่กรณี
3.แนวทางการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติหรือการดำเนินการของบุคคล สถานที่ กิจการ หรือ
กิจกรรมต่าง ๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบ รวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการ
กำหนดตามประกาศจังหวัดในกรณีที่พบผู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนและสั่งให้ผู้นั้น
ปฏิบัติให้ถูกต้อง ถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
4.การเร่งรัดการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรค เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19)ที่กำหนดเป็นวาระแห่งชาติปรากฏผลเป็นรูปธรรมและประชาชนได้รับประโยชน์โดยเร็ว ให้ทุกส่วนราชการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกัน ในการเร่งรัดเตรียมความพร้อมและ
บูรณาการปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนภารกิจในการกระจายและแจกจ่ายวัคซีน การลงทะเบียนรับวัคซีน การฉีดวัคซีน
รวมทั้งการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อมุ่งลดจำนวนผู้ป่วยและให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศต่อไป โดยให้รายงานแผนการปฏิบัติงานและผลการดำเนินงานดังกล่าวต่อผู้ว่าราชการจังหวัด
5. การป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในการกระทำอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และพนักงานเจ้าหน้าที่อื่น
ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ประสานการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดและเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติการกวดขัน สอดส่องและเฝ้าระวัง
เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย ประกาศจังหวัด ซึ่งมีผลทำให้เป็นแหล่งต้นตอของการเป็นพาหะของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) รวมถึงการเปิดให้มีการมั่วสุมลักลอบเล่นการพนัน โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพื่อปราบปรามต่อไป
ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ประกาศนี้มีความผิดตามตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งหรือประกาศ
เปลี่ยนแปลงซึ่งจะได้มีการประเมินเป็นระยะ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
(นายชยันต์ ศิริมาศ)
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด
ผู้กำกับการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดร้อยเอ็ด



/สมนึก บุญศรี/ร้อยเอ็ด/0817082129-ข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น