เพชรบุรี-ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน โชว์ฟอร์มทลายแก๊งโจรกรรมรถ หลายจังหวัด ยึดของกลางคืนเจ้าของกว่า20 คัน

เพชรบุรี-ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน โชว์ฟอร์มทลายแก๊งโจรกรรมรถ หลายจังหวัด ยึดของกลางคืนเจ้าของกว่า20 คัน



เมื่อเวลา 11:00 น วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ที่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พันตำรวจเอก จิรัฏฐ์ โรจน์บวรวิทยา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน พร้อมด้วย พันตำรวจโท ไพฑูรย์ ไม้จันทน์ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภแก่งกระจาน และฝ่ายปกครองอำเภอแก่งกระจาน ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม นายอภิสิทธิ์ หงษ์รัก อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 1/2 หมู่ 11 ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม และนาย อนุภาพ หงษ์รัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 130 ทับ 8 หมู่ 11 ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม 2 ผู้ต้องหา ที่ร่วมกัน โจรกรรม รถจักรยานยนต์ ในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีจังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดนครปฐม พร้อมนำของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆที่ตรวจยึดได้จำนวน22 คัน และโครงชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์อีกจำนวน2คัน พร้อมด้วย เสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ มาแถลงต่อหน้าสื่อมวลชน ทั้งนี้มีเจ้าของรถที่ถูกโจรกรรมมายืนให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่อีกด้วย
พ .ต.อ.จิรัฏฐ์ เผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน ได้รับแจ้งจาก น .ส. สุดารัตน์ ชุ่มชื่นจิตต์ อายุ25ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 ม4 ต.พุสวรรค์ อ.แก่งกระจาน และผู้เสียหายชาวตำบลแก่งกระจาน ว่า เกิดเหตุมีคนร้ายโขมยรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณหน้าบ้าน แต่ไม่ทราบจำนวนและทิศทางหลบหนีของคนร้าย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตาม แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังออกติดตามรถจักรยานยนต์ 2 คัน ที่หายไป ก็ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายชาวตำบลแก่งกระจานเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 อีกว่าเกิดเหตุคนร้ายโจรกรรมรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้านอีก1คัน ภายหลัง พ.ต.ท.ไพฑูรย์ ไม้จันทร์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.แก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน





เข้าตรวจสอบ จึงทราบว่าลักษณะการก่อเหตุของคนร้ายเชื่อได้ว่าเป็นกลุ่มคนร้ายรายเดียวกันกับรถที่หายไปเมื่อวันที่1พฤษภาคม ที่ผ่านมา อย่างแน่นอน จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว พร้อมกับตรวจสอบกลัองวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุไปจนถึงตำบลยางหักและอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี นอกจากนั้นยังประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและชุดสืบสวนภาค7เพื่อแกะรอยคนร้ายอยู่ประมาณ2 อาทิตย์ จนทราบชื่อและเบาะเเสของคนร้ายคือนายอภิสิทธิ์และนายอนุภาพ ซึ่ง เป็นคนพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลและทำการจับกุมนายอภิสิทธิ์และนายอนุภาพ ฐานความผิด ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยร่วมกัน ทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของทั้งสอง และได้ขยายผลไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์อีกจำนวน 22 คัน เป็นรถที่หายจากอำเภอแก่งกระจานและอำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี จำนวน17 คัน และรถที่ถูกโจรกรรมจากพื้นที่จังหวัดราชบุรีอีก 5 คัน พร้อมโครงรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ที่สองคนร้ายโจรกรรมมาไว้ดำเนินการตรวจสอบ ส่วนนายอภิสิทธิ์ และนายอนุภาพ สารภาพว่า ร่วมกันตระเวนลักรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดนครปฐม โดยจะออกตระเวนลักทรัพย์ในเวลากลางคืน นายอภิสิทธิ์ ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนนายอนุภาพนั่งซ้อนท้าย ตระเวนไปตามที่ต่างๆ เมื่อเจอรถเป้าหมาย นายอภิสิทธิ์ จะเป็นคนลงมือโดยใช้กุญแจแบบปลายแหลม แทงไปที่รูกุญแจรถเป้าหมาย แล้วปิดเพื่อปลดล็อค จากนั้นต่อสายตรง ขับขี่รถที่โจรกรรมออกไปทันที ส่วนนายอนุภาพจะขับรถตามมา เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก ที่จังหวัดสมุทรสงคราม นายอภิสิทธิ์จะนำรถที่โจรกรรมมาได้ ไปขายให้กับบุคคลในเครือข่าย คันละประมาณ 2,500 บาท ถึง 3,000 บาท แล้วนำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะนำเงินไปหาซื้อยาเสพติดมาเสพ ล่าสุดเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป

หลังเเถลงข่าวเสร็จ น.ส.สุดารัตน์ ชุ่มชื่นจิตต์ หนึ่งชาวบ้านผู้เสียหายที่ได้รถจักรยานยนต์คืน เผยว่า รถยี่ห้อฮอนด้าของตนที่ถูกคนร้ายโขมยไป ตนกู้ยืมเงินมาจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งเพื่อใช้เป็นยานพาหนะไปประกอบอาชีพ และยังอยุ่ในช่วงชำระผ่อนรายเดือน จนดีใจมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการออกติดตามยึดรถของตนและของผู้อื่นกลับคืนมาได้ ตนต้องขอขอบคุณและเป็นกำลังใจแทนพี่น้องประชาชนในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจทุกนาย
ด้าน พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ เผยอีกว่า ตนต้องขอฝากประชาสัมพันธุ์ไปถึงพี่น้องประชาชนทุกท่านให้ร่วมกันระมัดระวังในทรัพย์สินของท่าน จะเห็นได้ว่า การตรวจยึดรถกลับคืนเจ้าของในครั้งนี้ ยังถือเป็นส่วนที่น้อย เชื่อว่าทรัพย์สินของประชาชนที่ถุกโจรกรรมไปและถุกส่งต่อไปขายยังมีอยู่มาก ดังนั้นขอให้ประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา และหากประสบเหตุ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที



กสิพล ศิริลาภ- เพชรบุรี