วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564

นครพนม - ร.3 พัน.3 ดำเนินโครงการศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา” โมเดล ภายในค่ายพระยอดเมืองขวาง

นครพนม - ร.3 พัน.3 ดำเนินโครงการศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา” โมเดล ภายในค่ายพระยอดเมืองขวาง

_____วันที่ 1 มิ.ย. 2564 ที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ดำเนินโครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ “โคก หนอง นา” โมเดล ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย เพื่อเป็นแหล่งความรู้ด้านวิชาการเกษตรสมัยใหม่ ให้สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิผล ให้กำลังพลนำความรู้ด้านการเกษตรนำไปประยุกต์ใช้และปฏิบัติซึ่งไม่ซับซ้อน ประหยัด เหมาะสมกับสภาพสังคมภายในค่ายฯ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ จึงได้เกิดโครงการฯ ที่ได้นำ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” นำองค์ความรู้มาปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ จะนำไปสู่การพึ่งพาตนเองและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ได้น้อมนำแนวทางตามพระราชดำริมาดำเนินการของหน่วยโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้กำลังพลและครอบครัว ศึกษาและเรียนรู้ในศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิผลต่อไป
_____ทางด้านพันโท ศรณณัฐ นวลมณี ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ผบ.ร.3 พัน 3) เล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินโครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ โคก หนอง นา โมเดล คือ การจัดการพื้นที่ ซึ่งเหมาะกับพื้นที่การเกษตร ที่เป็นการผสมผสานเกษตรทฤษฎีใหม่เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้นๆ โคก - หนอง - นา โมเดล เป็นการให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเอง โดยมีมนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้มันสำเร็จเร็วขึ้นอย่างเป็นระบบ ซึ่งโคก - หนอง - นา โมเดล เป็นแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์และการสร้างชีวิตที่ยั่งยืน โดยมีองค์ประกอบดังนี้
1. โคก : พื้นที่สูง ดินที่ขุดทำหนองน้ำนั้นให้นำมาทำโคก บนโคกปลูก “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทางพระราชดำริ / ปลูกพืช ผัก สวนครัว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ทำให้พออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น เป็นเศรษฐกิจพอเพียงขั้นพื้นฐาน ก่อนเข้าสู่ขั้นก้าวหน้า คือ ทำบุญ ทำทาน เก็บรักษา ค้าขาย และเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย / ปลูกที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ



2. หนอง : หนองน้ำหรือแหล่งน้ำ ขุดหนองเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้งหรือจำเป็น และเป็นที่รับน้ำยามน้ำท่วม (หลุมขนมครก) / ขุด “คลองไส้ไก่” หรือคลองระบายน้ำรอบพื้นที่ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดให้คดเคี้ยวไปตามพื้นที่เพื่อให้น้ำกระจายเต็มพื้นที่เพิ่มความชุ่มชื้น ลดพลังงานในการรดน้ำต้นไม้ / ทำฝายทดน้ำ เพื่อเก็บน้ำเข้าไว้ในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่โดยรอบไม่มีการกักเก็บน้ำ น้ำจะหลากลงมายังหนองน้ำ และคลองไส้ไก่ ให้ทำฝายทดน้ำเก็บไว้ใช้ยามหน้าแล้ง / พัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ ทั้งการขุดลอก หนอง คู คลอง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้ง และเพิ่มการระบายน้ำยามน้ำหลาก
3. นา : พื้นที่นานั้นให้ปลูกข้าวอินทรีย์พื้นบ้าน โดยเริ่มจากการฟื้นฟูดิน ด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ยั่งยืน คืนชีวิตเล็ก ๆ หรือจุลินทรีย์กลับคืนแผ่นดินใช้การควบคุมปริมาณน้ำในนาเพื่อคุมหญ้า ทำให้ปลอดสารเคมีได้ ปลอดภัยทั้งคนปลูก คนกิน / ยกคันนาให้มีความสูงและกว้าง เพื่อใช้เป็นที่รับน้ำยามน้ำท่วม ปลูกพืชอาหารตามคันนา



ภาพ : ขอบพระคุณภาพจาก ร.3 พัน.3
ข่าว : ไทบ้าน นิวส์ (พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น