วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2564

แม่อุ้มลูก 9 เดือนจากแคมป์ก่อสร้างนั่งรถไฟตู้นอนแอร์กลับอุดรฯ ติดโควิด

ข่าว แม่อุ้มลูก 9 เดือนจากแคมป์ก่อสร้างนั่งรถไฟตู้นอนแอร์กลับอุดรฯ ติดโควิด

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา14.00 น. นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี พ.ญ.สุรีรัตน์ วัชระสุวรรณเสรี อายุรแพทย์ โรคติดเชื้อ รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 พื้นที่ จ.อุดรธานี ว่าการแพร่ระบาดภายในพื้นที่ดีขึ้น แต่ยังพบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วย เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง ล่าสุดวันนี้พบเพิ่มอีก 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 511 ราย หายกลับบ้าน 473 ราย รักษาตัวอยู่ 32 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์ สสจ.อุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานีพบผู้ติดเชื้อในห่วง 14 วันที่ผ่านมา 23 ราย เกือบทั้งหมดติดเชื้อจากภายนอก รวมทั้งรายที่ 506-510 โดยรายที่ 506 , 507 สองสามีภรรยา แรงงานจากแคมป์ก่อสร้างยานนาวา กทม. นั่งรถตู้กลับมา 5 คน ลง อ.บ้านดุง 3 คน เวลา 03.00 น. วันที่ 11 มิ.ย.64 มาถึงเข้าตรวจเชื้อพบ 2 ราย อีกรายไม่พบต้องกักตัว ส่วนอีก 2 คน ลง จ.ขอนแก่น และ จ.หนองคาย , รายที่ 508 ชาวอุดรธานี เดินทางไปที่ จ.ราชบุรี และ กทม. กลับมาตรวจพบเชื้อ 2 ครั้งพบในครั้งที่สอง วันที่ 11 มิ.ย.64
รายที่ 509 และ 510 เป็นแม่ลูก โดยลูกอายุ 9 เดือน ไปอาศัยอยู่กับสามีในแคมป์คนงาน ที่ จ.นนทบุรี วันที่ 9 มิ.ย.64 เดินทางด้วยรถไฟตู้นอนติดแอร์ กลับมาบ้านที่ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี วันที่ 11 มิ.ย.64 รับแจ้งจากสามีว่าติดโควิด-19 จึงไปตรวจที่ รพ.ศรีธาตุ พบติดเชื้อทั้งแม่และลูก มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อุดรธานี 3 ราย ขณะนี้ติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เดินทางมาในตู้รถไฟเดียวกัน มารับการตรวจเชื้อและกักตัว ได้ส่วนหนึ่งแล้วที่เหลือกำลังติดตาม และรายที่ 511 เป็นช่างเย็บผ้าไปทำงานที่ กทม. เดินทางกลับบ้าน อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ด้วยรถไฟเมื่อมาถึงไป รพ.ตรวจหาเชื้อทันที่พบติดโควิด-19
พ.ญ.สุรีรัตน์ วัชระสุวรรณเสรี อายุรแพทย์ โรคติดเชื้อ รพ.ศูนย์อุดรธานี กล่าวว่า ผู้ป่วย 32 ราย รักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี 14 ราย มีอาการในห้องไอซียู 5 ราย รายแรก เป็นผู้ป่วยสายพันธุ์เดลตา หรือสายพันธ์อินเดีย ซึ่งเป็นคลัสเตอร์งานสู่ขวัญคนเดียว ต้องต่อท่อช่วยหายใจ มีอาการปอดติดเชื้อแบคมีเรีย รายที่ 2-3 ต่อท่อช่วยหายใจ แต่อาการทรงตัว และรายที่ 4-5 ใช้เครื่องช่วยหาใจแรงดันสูง อาการทรงตัวต่อเนื่อง ที่เหลือไม่มีอาการรุนแรง และยังมีผู้ป่วยอาการรุนแรงกระจายตาม รพ.ต่างอำเภอ



ส่วนในวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ทุกโรงเรียนได้ทำตามมาตรการในป้องกันการแพร่ระบาดโควิดเป็นอย่างดี สร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชน โดยคุณครู ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นส่วนใหญ่ไปแล้ว โดยที่โรงเรียนเอกชน ที่มีเด็กนักเรียนจำนวน 2,800 คน ค่อนข้างบ้าน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางไปเยี่ยม ทางโรงเรียนได้จัดมาตรการเอาไว้หลายด้าน อย่างเข้มงวด การคัดกรอง สวมหน้ากากทุกคน รวมถึงจัดสถานที่รับประทานอาหารสัดส่วน อย่างดี ส่วนโรงเรียนต่างอำเภอก็ได้จัดสถานที่เรียนตามมาตรการอย่างเข้มข้นเหมือนกัน โดยเฉพาะโต๊ะเรียนหนังสือของนักเรียนเว้นระยะห่าง ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิดยังไม่สงบ ทางกระทรวงศึกษาธิการ,กระทรวงสาธารณสุข และฝ่ายปกครอง ร่วมการสร้างมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้นที่โรงเรียน สร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครอง ดังกล่าว
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์ สสจ.อุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานีมีเป้าหมายฉีดวัคซีน 1,163,713 คน หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ ของประชากร ถึงวันนี้ฉีดเข็มแรกไปแล้ว 49,925 คน ฉีด 2 เข็มแล้ว 24,063 คน ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนมาเพิ่มเติม มีวัคซีนฉีดในเข็มที่ 2 อีก 1 วันๆ ละ 600 คน ไม่มีการฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังมาตั้งแต่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ที่ลงทะเบียนไว้กับหมอพร้อม วันละประมาณ 12,000 คนต้องรอไปก่อน คาดว่าสัปดาห์นี้จะมีวัคซีนมาเพิ่ม เมื่อวัคซีนมาถึงจะแจ้งให้มาฉีด โดยผู้ไม่ได้มาฉีด 7-8 มิ.ย.จะแจ้งผ่าน SMS และ อสม. ส่วนตกค้างตั้งแต่ 9 มิ.ย.จะประชาสัมพันธ์ผ่านหลายช่องทาง
นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนใน จ.อุดรธานี จัดสลับเด็กนักเรียนมาเรียนในวันนี้อย่างละครึ่งเป็นแบบเลขคู่เลขคี่สลับกัน ส่วนเด็กนักเรียนที่อยู่ที่บ้านก็อาจจะเรียนออนไลน์ไปด้วยที่พอจะเรียนได้ ซึ่งได้พูดคุยกับเด็กนักเรียนก็บอกว่าอยากมาโรงเรียนมาเรียน และเจอเพื่อนๆ ทางโรงเรียนอนุบาลอุดรธานีก็ได้ลดนักเรียนแต่เพิ่มครูที่ดูแลเด็กเป็น 2-3 คนต่อห้อง นอกจากนี้ได้ให้โรงเรียนในพื้นที่ประสานผู้ปกครองสอบถามการออกนอกพื้นที่จังหวัด หากมีการเดินทางต้องมีการกักตัวก่อน 14 วัน



/////////////////////
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี 0804141617

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น