ประธานวุฒิสภาให้การรับรองประธานวุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิส และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของวุฒิสภา ระหว่างวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน 2564
วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.45 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้การรับรองนายอเล็กซ์ คูเพรซท์ (H.E. Mr. Alex Kuprecht) ประธานวุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิส และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของวุฒิสภา ระหว่างวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน 2564 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน และยกระดับความร่วมมือของสมาคมการค้าเสรียุโรป (European Free Trade Association : EFTA) โดยมีพลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ในฐานะผู้ต้อนรับเกียรติยศ พลเอก สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ที่ปรึกษากลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-สวิสเซอร์แลนด์ และนางสาวนภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมให้การต้อนรับ
.
ในการพบปะสนทนา ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้กล่าวต้อนรับประธานวุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิส และคณะ และแสดงความเชื่อมั่นว่าการเยือนครั้งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสวิส โดยเฉพาะด้านนิติบัญญัติของทั้งสองประเทศใกล้ชิดยิ่งขึ้น พร้อมกล่าวขอบคุณสมาพันธรัฐสวิสที่เป็นมิตรประเทศที่ดีต่อไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลสวิสได้มอบเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 102 เครื่อง และชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร็ว (Rapid Antigen Test) จำนวน 1.1 ล้านชุดให้กับรัฐบาลไทยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
.
ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาเป็นเวลายาวนานกว่า 300 ปี และพระมหากษัตริย์ไทยทั้ง 2 พระองค์คือ รัชกาลที่ 8 และรัชการที่ 9 เคยประทับและศึกษา ณ สมาพันธรัฐสวิส โดยปีนี้ความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 90 ปี แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ดีตลอดมา ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการประชุมระหว่างประเทศ ทั้งการประชุมระดับทวิภาคีและพหุภาคี การมาเยือนครั้งนี้ถือเป็นการเยือนระดับสูงครั้งแรกของรัฐสภาทั้งสองประเทศ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังได้มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพระหว่างกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านนิติบัญญัติ
.
ในความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน มีความยินดีที่สมาพันธรัฐสวิสเป็นคู่ค้าอันดับสองของไทยในยุโรป และไทยเป็นคู่ค้าอันดับสองของสวิสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหวังว่าทั้งสองประเทศจะเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยไทยให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอาหารและนวัตกรรมอาหารที่สวิสมีความเชี่ยวชาญ ตลอดจนโครงสร้างขั้นพื้นฐาน และการท่องเที่ยว พร้อมทั้งยินดีที่ประเทศไทยและสวิตเซอร์แลนด์มีความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ อาทิ สมาคมการค้าเสรียุโรป (European Free Trade Association : EFTA) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขยายโอกาสด้านการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ไทยยังมีเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ซึ่งให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ลงทุนและประสงค์ให้สวิสเข้ามาลงทุนด้วยเช่นกัน
.
ประธานวุฒิสภายังได้กล่าวด้วยว่า การมาเยือนในครั้งนี้ยังมีส่วนสำคัญในการขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้มีการหารือร่วมกันเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศไทยและสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย และหวังว่าทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือกันในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พลังงานสะอาดและการพัฒนายั่งยืนตามแนวคิด Bio-Circular-Green Economy ของประเทศไทย
.
สำหรับความร่วมมือในด้านการศึกษา เป็นที่น่ายินดีที่ไทยและสวิสได้มีความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ อาทิ การโรงแรมและการท่องเที่ยว การฝึกอบรมด้านการโรงแรมให้กับเยาวชนด้อยโอกาส และจะมีความร่วมมือผลักดันศูนย์ความเป็นเลิศอาชีวศึกษาในสาขาที่สวิสมีความเชี่ยวชาญ อาทิ หลักสูตรการโรงแรมและการบริการ พร้อมหนุนเชื่อมต่อหลักสูตรอาชีวะช่างเทคนิคนาฬิกา ส่วนในด้านการท่องเที่ยว คาดว่าภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายจะมีนักท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศเพิ่มมากขึ้น จึงควรส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างกัน
.
ประธานวุฒิสภาได้กล่าวย้ำ วุฒิสภาพร้อมที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับวุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิสในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ ต่อไป เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศอีกด้วย
.
ด้านประธานวุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิส กล่าวแสดงความขอบคุณวุฒิสภาไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการเดินทางมาเยือนในครั้งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเมือง เศรษฐกิจ และการค้าแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันมีมูลค่ามากกว่า 12 พันล้านดอนลาร์ ซึ่งสวิสเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดในทวีปยุโรปของไทย และในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 2 ของสวิส และหวังว่าการเยือนในครั้งนี้จะทำให้สนธิสัญญาการค้า EFTA ระหว่างไทยและสวิสประสบความสำเร็จ โดยนายเบเนดิกท์ เวือร์ท สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภาสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) ในปีหน้าได้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย และจะมีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อหารือในประเด็น EFTA ระหว่างกันต่อไป สำหรับด้านการท่องเที่ยวก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวสวิสเดินทางมาท่องเทียวประเทศไทยกว่า 200,000 คน และยินดีที่ประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 เพื่อให้ชาวสวิสเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งประเด็นที่ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและได้มีการลงนามความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับความสัมพันธ์ทางด้านรัฐสภาการตั้งกลุ่มมิตรภาพฯ ระหว่างกันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด ในการสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาสองประเทศให้กระชับและพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ วุฒิสภาสวิสหวังว่าจะได้มีโอกาสต้อนรับคณะวุฒิสภาไทยที่ประเทศสวิสต่อไป
.
ทั้งนี้ ในระหว่างการเยือนประเทศไทย ประธานวุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิส และคณะ มีกำหนดการเข้าพบบุคคลสำคัญระดับสูงของไทย ได้แก่ ประธานรัฐสภา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้งพบปะกับชุมชนชาวสวิสในประเทศไทยอีกด้วย
ภาพ/ข่าว ฤทธิรณ ปัญญากาบ ทีมข่าวไทยเกอร์นิวส์ รัฐสภา รายงาน
The post ประธานวุฒิสภาให้การรับรองประธานวุฒิสภาสมาพันธรัฐสวิส และคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของวุฒิสภา ระหว่างวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน 2564 appeared first on .
from WordPress https://ift.tt/3nX2Nej
via IFTTT
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น