หนุ่มพนักงานตรวจสอบบัญชี คิดค้นสูตรพริกลาบ ทำขายสัปดาห์ละ 10 กิโลไม่พอขาย ชาวต่างชาติยังซื้อไปกิน ชาวล้านนาถือเคล็ดกินลาบ ทำบุญด้วยลาบ กินลาบ วันปีใหม่ จะมีโชคลาภ
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวล้านนาภาคเหนือ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมือง จะถือเคล็ดต้องกินของที่สื่อความหมายที่เป็นมงคล โดยเฉพาะ "ลาบ" ที่เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของทางภาคเหนือ ทำให้พริกลาบในช่วงนี้ขายดีเป็นอย่างมาก เช่นที่บ้านของนายองอาจ อินทเคหะ ตั้งอยู่เลขที่ 47/1 หมู่ที่ 4 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ที่ได้ผลิตพริกลาบจำหน่ายแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน และคิดค้นสูตรพริกลาบเมืองเชียงใหม่ดั้งเดิม พริกลาบสูตรเมืองแพร่โบราณ ออกจำหน่าย ซึ่งขายดีจนผลิตไม่ทัน
นายองอาจ เล่าว่า ตนทำงานเป็นพนักงานตรวจสอบบัญชีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ และเป็นคนชอบทานลาบเป็นประจำอยู่แล้ว บางครั้งก็เข้าแข่งขันลาบในงานต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่เมือง หรือสงกรานต์ ชาวเชียงใหม่ คนเมืองล้านนาในภาคเหนือ จะนิยมทำลาบไปทำบุญ ทำลาบไว้ทาน หรือเลี้ยงญาติพี่น้องที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด ต่างถิ่น ตามความเชื่อว่าเมื่อทานลาบ ก็จะได้มีโชคลาภในวันขึ้นปีใหม่เมือง เป็นความเชื่อที่ทำสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และสูตรทำพริกลาบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตนจึงได้เกิดความคิดว่าอยากทำพริกลาบขึ้นมาเป็นสูตรของตนเองบ้าง เพื่อหารายได้เสริมจากการทำงาน จึงได้คิดค้นสูตรพริกลาบต่างๆ ในอดีตเจ้านายฝ่ายเหนือก็มักจะให้หาสมุนไพรดีๆ มาทำน้ำพริกลาบ เพราะเอาไว้ใส่อาหารได้หลากหลาย และการทำลาบเมื่อก่อนจะกินแต่ลาบหมู ไม่กินลาบวัว ลาบควาย ทำให้เครื่องเทศที่นำมาทำพริกลาบ มีความหอมจากความหลากหลายที่ผสมกันของเครื่องเทศ เมื่อตนได้ค้นคว้าหาสูตรมา ก็นำมาคิดสูตรตนเองออกมา ส่วนผสมพริกลาบสูตรเมืองเชียงใหม่ จะมีเครื่องเทศทั้งหมด 17 ชนิด จะเริ่มได้กลิ่นหอมตั้งแต่คั่วเครื่องเทศแล้ว เมื่อนำมาผสมกับพริกจินดาที่เตรียมไว้ ก็ยิ่งเพิ่มความหอมเข้าไป เกิดเป็นรสชาติที่ทั้งเผ็ดและหอมไม่เหมือนกับของที่อื่นๆ
นอกจากนี้ตนก็ได้ทำพริกลาบเมืองแพร่โบราณ ซึ่งของหลายคนที่ทำออกมานั้นจะเห็นว่าเป็นพริกลาบที่นำพริกไปคั่วกับน้ำมัน ทำให้เก็บรักษาไว้ไม่ได้นาน และสูตรพลิกลาบก็มีเครื่องเทศเพียง 5 ชนิด จะน้อยกว่าพริกลาบสูตรเมืองเชียงใหม่ แต่ที่ต่างกันคือจะมีความหอมจากมะแขว่น กับดีปรี มาช่วยในความเผ็ด ความหอม ตนจะทำแบบแห้งไม่ผสมน้ำมัน ทำให้การเก็บรักษาคงอยู่ได้นานเป็นปี ไม่เหม็นหืน ซึ่งพริกลาบแต่ละสูตรก็จะใช้ได้หลากหลาย โดยพริกลาบเมืองเชียงใหม่ จะเหมาะกับทำลาบหมู ใส่แกงต่างๆ ส่วนพริกลาบเมืองแพร่ จะเหมาะกับลาบเนื้อ ทำยำกบ และอาหารประเภทต้มยำ
ปัจจุบันตนทำพริกลาบเอง ไม่ได้ใช้เครื่องแบบโรงงาน เมื่อทำเสร็จก็จะแพ็คลงบรรจุแบบซอง หรือแบบกระปุก ซึ่งราคาแบบซองตนก็ส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ขายแบบแผง จำนวน 10 ซอง ในราคา 70 บาท ส่วนแบบกระปุกคิดราคา 50 บาท ปัจจุบันใช้เวลาว่างจากการทำงานมาทำพริกลาบจำหน่าย สัปดาห์ละ 10 กิโลกรัม ไม่พอขาย เพราะส่งให้กับตลาดต้นพะยอม ตลาดธานินทร์ ตลาดสันป่าข่อย ตลาดประตูเชียงใหม่ และกำลังจะขยายไปยังตลาดอื่นอีก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง ก็มีงานแข่งขันลาบหลายแห่ง ตนก็นำพริกลาบไปจำหน่ายด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี มีทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ทำลาบ ชาวบ้าน และที่แปลกคือมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศ ก็สนใจซื้อเหมือนกัน ขณะนี้มีออเดอร์เข้ามาเพิ่มอีกจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้ผลิตขายไม่ทัน เมื่อว่างจากการทำงานเมื่อไหร่ก็ต้องกลับมาทำพริกลาบส่งให้ลูกค้าตลอด หากมีคนสนใจก็สามารถติดต่อมาที่เบอร์โทรศัพท์ 081-0309889.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น