วธ. ร่วมสร้างความเข้าใจ-รับฟังความเห็น มาตรการภาษีส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปะ ในงาน “มาตรการภาษี & เขตปลอดอากร” เพื่อศิลปะไทย พลิกโอกาสใหม่ ส่งเสริม Soft Power สู่สากล
เผยแพร่เมื่อ: 2025-08-30T10:36:05.000Z
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระท...
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้ นางสาวรานี อิฐรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางเกษร กำเหนิดเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยมอบหมายให้นางสาวสมพร พานทอง ผู้อำนวยการศูนย์หอศิลป์ เข้าร่วม พร้อมร่วมชี้แจงสร้างความเข้าใจและรับฟังความเห็นเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปะ ในงาน “มาตรการภาษี & เขตปลอดอากร” เพื่อศิลปะไทย พลิกโอกาสใหม่ ส่งเสริม Soft Power สู่สากล ณ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ
:
จัดโดยสำนักงาน ป.ย.ป. และ THACCA
โดยมีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านศิลปะ และกรมศุลกากร ร่วมชี้แจงความคืบหน้าการจัดทำมาตรการศิลปะ ให้แก่ศิลปิน
ภัณฑารักษ์ ตัวแทนแกลเลอรี่ และบุคลากร
ในแวดวงศิลปะ
กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ศิลปินผู้เป็นเจ้าของงานศิลปะ สาขาทัศนศิลป์ ในการขึ้นทะเบียนศิลปินเพื่อเข้าสู่มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะด้านทัศนศิลป์ ได้แก่ งานจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย สื่อประสม โดยให้ความสำคัญกับศิลปินทุกกลุ่ม ครอบคลุมทั้งศิลปินแห่งชาติ ศิลปินศิลปาธร และศิลปินทั่วไป รวมถึงการซื้อจากแกลเลอรี่ บริษัท ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล มูลนิธิหรือสมาคมที่จำหน่ายงานศิลปะ หรือจัดงานประมูลงานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยศิลปินข้างต้นจะได้รับการสนับสนุนตามมาตรการภาษีในครั้งนี้
โดยขั้นตอนหลังจากที่กรมสรรพากรประกาศกฎกระทรวงเกี่ยวกับเงื่อนไขการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการภาษีดังกล่าว สศร. จะจัดทำประกาศสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เรื่อง การขึ้นทะเบียนศิลปินผู้เป็นเจ้าของงานศิลปะด้านทัศนศิลป์ ซึ่งจะแจ้งถึงรายละเอียด คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และขั้นตอนการดำเนินงานผ่านทาง www.ocac.go.th และเพจสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และจะแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาคำขอ และประกาศรายชื่อศิลปินที่ได้รับการขึ้นทะเบียนผ่านทาง www.ocac.go.th พร้อมทั้งจะจัดส่งข้อมูลรายชื่อของศิลปินไปยังกรมสรรพากรเพื่อเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลภาษีเพื่อให้ผู้ซื้อผลงานดังกล่าว ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการต่อไป
อนึ่ง บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าซื้องานศิลปะด้านทัศนศิลป์ของศิลปินไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีภาษี โดยยื่นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปหรือใบรับผลงาน พร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดงานศิลปะเป็นหลักฐานประกอบการขอลดหย่อนภาษี
มาตรการดังกล่าวนี้มุ่งหวังให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะร่วมสมัย เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานเพิ่มมากขึ้น และเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งฝั่งผู้ซื้อและศิลปิน โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570 รวมระยะเวลา 3 ปี
ปัจจุบัน กระบวนการอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายของ สำนักงานกฤษฎีกา ซึ่งหากแล้วเสร็จกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบ และ สศร. จะดำเนินการประกาศรับการขึ้นทะเบียนศิลปินตามหลักเกณฑ์ต่อไป
นอกจากนี้ ผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรมได้ชี้แจงมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ โดยสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้โดยหักค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30 เป็น 60 ของค่าตอบแทน ตั้งแต่ปีภาษี 2568 เป็นต้นไป เป็นการถาวร โดยไม่กำหนดประเภทศิลปิน รวมถึงเปิดเวทีรับฟังความเห็นเกี่ยวกับร่างหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในการรับรองความเป็นผลงานศิลปะเพื่อการนำเข้าในราชอาณาจักรไทย สำหรับการตรวจพิจารณางานศิลปะที่จะเข้ามาตรการสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนหรืองดเว้นภาษีอากรขาเข้าประเทศ ปัจจุบันกระทรวงวัฒนธรรมอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำรายละเอียดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น