ผู้ว่าฯ กระบี่ นำส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” และพายุ “หนองฟ้า” ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เผยแพร่เมื่อ: 2025-09-02T04:59:55.000Z
วันที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 08.00 น. ที่ห้องประชุมปลายพร...
วันที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 08.00 น. ที่ห้องประชุมปลายพระยา ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ 9/10 นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายธีรศักดิ์ ทองมาตร์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ส่วนราชการ และหน่วยงานที้กี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” และพายุ “หนองฟ้า” ผ่านระบบสื่อิเล็กทรอนิกส์ จากห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม มีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้บริหารกรม ปภ. ผู้แทนกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้า ปภ. จังหวัด 62 จังหวัด

สำหรับการประชุมครั้งนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ตลอดจนการสนับสนุนการช่วยเหลือในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้กำชับแนวทางการบริหารจัดการสถานการณ์ 5 ด้าน ได้แก่ 1.“ติดตามสถานการณ์” โดยให้ทุกจังหวัด ยังคงเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง 2.“เตรียมความพร้อมรับเหตุฉุกเฉินในพื้นที่” โดยให้ทุกจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่เสียงภัย เตรียมความพร้อมเพื่อรับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละระดับ 3.“การปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย” โดยทุกพื้นที่ต้องให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่เป็นอันดับแรก หากมีผู้ประสบภัยติดค้างอยู่ในพื้นที่ประสบภัย และหากประเมินจะเป็นอันตรายให้อพยพนำผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ประสบภัยโดยเร็ว กรณีมีเหตุดินโคลนถล่มให้เร่งเข้าค้นหาผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด 4.“เร่งรัดจ่ายเงินช่วยเหลือหรือให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง” ขอให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งรัด ลดขั้นตอน และระยะเวลาในการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง และ 5.“การเร่งฟื้นฟูบูรณะในพื้นที่ที่สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ” ให้จังหวัด อำเภอและองค์กรปกรองส่วนท้องถิ่นจัดทีมเข้าฟื้นฟบูรณะสภาพพื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว

สำหรับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่มใน 14 จังหวัด 40 อำเภอ 114 ตำบล 377 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 9,531 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย และพิษณุโลก มีผู้เสียชีวิต 10 ราย (เชียงใหม่ 8 รายจากดินถล่ม แม่ฮ่องสอน 2 รายจากจมน้ำ) มีผู้บาดเจ็บ 15 ราย และพืชผลทางการเกษตรเสียหาย 649,960 ไร่

ผลกระทบอิทธิพลพายุ “หนองฟ้า” เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 12 จังหวัด 37 อำเภอ 114 ตำบล 349 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 192 ครัวเรือน แม้ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ยังมีสถานการณ์ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำพูน ตาก ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู และชุมพร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยและดินถล่มในทุกมิติ ทั้งการติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านพยากรณ์ การจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด การแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนการสนับสนุนทรัพยากร เช่น เครื่องจักรกลสาธารณภัย และเต็นท์สนามเพื่อรองรับผู้ประสบภัยชั่วคราว
ข้อมูล : กองสารนิเทศ สป.มท.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น