วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563

มือปืนโหดจ่อยิงหน้าผากชาวมาเลเซียเสียชีวิตที่ตากใบ

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

มือปืนโหดจ่อยิงหน้าผากชาวมาเลเซียเสียชีวิตที่ตากใบ





เมื่อเวลา 19.35 น. ของวันที่ 18 ส.ค. 63 ร.ต.อ.วีระพงษ์ อินท์ผักแว่น รองสารวัตรสอบสวน สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตริมถนนในหมู่บ้านนาฆออีบู ม.2 ต.นานาค จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยร่มเมืองตากใบจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบจุดเกิดเหตุละแวกดังกล่าวเป็นพื้นที่เปลี่ยวไม่มีบ้านของชาวบ้านอาศัยอยู่ โดยมีศพผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย นอนหงายจมกองเลือดอยู่ริมถนน โดยใส่เสื้อยืดแขนสั่นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน และคาดหน้ากากอนามัยที่ปาก ซึ่งมีร่องรอยถูกกระสุนปืนพกไม่ทราบขนาดที่บริเวณหน้าผาก 1 นัด และคางอีก 1 นัด รวม 2 นัด จากการตรวจสอบหลักฐานเอกสารในกระเป๋าสตางค์ ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ ทราบชื่อ คือ นายมูฮัมหมัดริดซูวัน บินอับดุลเลาะห์ ซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย มีภูมิลำเนาอยู่บ้านกำปงกาโลกือลัง เขตปาเสมัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานใดๆของคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยร่มเมืองตากใบ ส่งโรงพยาบาลตากใบ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อแจ้งญาติเดินทางมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา





จากการสอบถามพยานบุคคลในหมู่บ้านจุดเกิดเหตุเบื้องต้น ทราบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด แต่ไม่ทราบทิศทางมาจากทางใด จนกระทั่งในเวลาต่อมามีชาวบ้านขี่รถ จยย.มาพบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ริมถนน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร้อย ร.15111 ฉก.นราธิวาส 30 ซึ่งตั้งฐานอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว มาตรวจสอบและพบศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ทหารได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบในเวลาต่อมา โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาผู้เสียชีวิต

ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ผู้เสียชีวิตได้ลักลอบเดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย ที่อาจจะพัวพันเรื่องยาเสพติดมาเกี่ยวข้อง และอาจถูกกลุ่มพรรคพวกคนไทยในพื้นที่วางแผนลวงใช้อาวุธปืนจ่อยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงในการติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น